แหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าสู่กันฟังของผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่น

แหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าสู่กันฟังของผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่น

Friday, December 31, 2010

Happy New Year 2011.สวัสดีปีใหม่ 2554 . ชาวมัธยมศึกษาพลัดถิ่น


ขอให้ชาวมัธยมศึกษาพลัดถิ่นทุกท่านสุข สดชื่น สมหวัง ได้กลับมัธยมศึกษาทุกท่านตามความหวัง ตลอดปีกระต่ายทองและตลอดไป

Wednesday, December 29, 2010

ผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่น "ส่อแห้ว" ชินภัทรฯ ให้ข่าวเป็นนัย...

จากกรณีที่ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัด ถิ่นแห่งประเทศไทย ออกมาเรียกร้องนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญ เพื่อทำหน้าที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้ดูแลการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนมัธยมฯพลัดถิ่นทั่ว ประเทศ ประมาณ 1,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาที่มาจากโรงเรียนมัธยมศึกษา ในสมัยที่ยังเป็นโครงสร้างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ก่อนที่จะมีการแยกเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ในปัจจุบันนี้ ซึ่งต้องการจะโยกย้ายกลับไปเป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษานั้น

เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นายชินภัทรภูมิรัตน กล่าวว่า หลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาทาง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯมีการกำหนดไว้อยู่แล้ว เพียงแต่จะต้องพิจารณาการย้ายในส่วนของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาใน ปัจจุบันนี้ก่อน แต่หากยังมีตำแหน่งโรงเรียนมัธยมศึกษาว่างอยู่อีก ถึงจะพิจารณาในส่วนของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาในปัจจุบันเข้ามาได้ ซึ่งหลักเกณฑ์ก็เปิดทางให้กับกลุ่มผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นอยู่ เพียงแต่ต้องทำเป็นขั้นๆ ไป ถ้าจะให้นำกลุ่มผู้อำนวยการโรงเรียนประถมศึกษาในปัจจุบันมาพิจารณาโยกย้าย พร้อมๆ กับผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษา คงทำไม่ได้ เพราะตามหลักเกณฑ์กำหนดให้พิจารณาในส่วนของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาใน ปัจจุบันก่อน

ที่มา - หนังสือพิมพ์มติชน

........................
ก็ยังดี...ที่ยังเปิดโอกาส ว่าแต่ว่า แล้วจะเหลือโรงเรียนมัธยมศึกษา ว่างไว้ให้พิจารณาไหมท่าน เห็นบางเขตฯที่มีตำแหน่งว่าง "ท่านรองฯผอ.โรงเรียน"กำลังวิ่งเพื่อให้เปิดสอบฯบางเขตฯกำลังวิ่งให้เรียกจากบัญชีภาค ขและ ค ของ สพป.(แยกลงประถมศึกษา หรือ มัธยมศึกษา)ท่านจะว่ายังไงครับ
ดูหนังสือ สพฐ. ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2553
เรื่อง การบรรจุและแต่งตั้งผู้ผ่านการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผอ./รองฯผอ.สถานศึกษา

ขอบคุณเวบครูไทยดอทอินโฟ

Thursday, December 23, 2010

รมว.ศธ.ปฐมนิเทศผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาป้ายแดง



สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา จ.นครปฐม - นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๓

รมว.ศธ. กล่าวว่า การพัฒนาผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานั้น เป็น ๑ ใน ๔ หัวใจหลักของการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อันประกอบไปด้วย ๑) การพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ ๒) การพัฒนาครูยุคใหม่ ๓) การพัฒนาสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้ใหม่ ๔) การพัฒนาการบริหารจัดการใหม่ ซึ่งมีแนวคิดที่ควรยึดถือปฏิบัติ คือ

แนวคิดการบริหารจัดการใหม่ จะต้องไม่มีการรวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลางเหมือนที่ผ่านมา เน้นให้มีการกระจายอำนาจลงสู่โรงเรียนเพื่อให้มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และระดมทรัพยากร ตัวอย่างเช่นโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ที่จะออกเป็นโรงเรียนในกำกับของรัฐ และมีสถานะเป็นนิติบุคคลในโอกาสต่อไป หรือโรงเรียนที่มีมาตรฐานและมีการแข่งขันสูง จะต้องเป็นโรงเรียนในกำกับของรัฐ และยกระดับให้เป็นนิติบุคคลทั้งหมด

แนวคิดด้านคุณภาพ ผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนของนักเรียนในสังกัด เช่น O-Net, A-Net จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญต่อคุณภาพของการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน

แนวคิดด้านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เช่น กรรมการสถานศึกษา สมาคมผู้ปกครอง ฯลฯ ซึ่งภาคีเครือข่ายเหล่านี้จะต้องมีส่วนร่วมในด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียน

สำหรับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาซึ่งจะได้รับการการบรรจุแต่งตั้งใหม่ จะต้องมีแนวคิดที่เป็นหนึ่งเดียวกันที่จะร่วมปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง โดยต้องจัดให้มีหน่วยเคลื่อนที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเวียนไปโรงเรียนต่างๆ แทนการที่จะให้โรงเรียนเข้ามาหาเขตพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริหารโรงเรียนและครูได้ทำงานอยู่ในโรงเรียนเต็มเวลาอย่างแท้จริง ตามนโยบายคืนครูและผู้บริหารสถานศึกษาให้กับโรงเรียน

รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า การศึกษาในระดับมัธยมศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประชากรของชาติ เนื่องจากผู้เรียนในวัยนี้อยู่ในช่วงของวัยรุ่น เป็นวัยที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว มีความคิดสร้างสรรค์ในระดับสูง จึงต้องมีการพัฒนาให้มีคุณภาพพร้อมที่จะก้าวสู่ระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาต่อไป

สิ่งสำคัญนอกจากจะได้ผู้บริหารที่มีแนวคิดและการบริหารจัดการแบบใหม่แล้ว ยังต้องนำครูพันธุ์ใหม่มาสู่เขตพื้นที่มัธยมศึกษาให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นครูที่สร้างมาเพื่อรองรับการศึกษาในยุคใหม่ เพื่อร่วมมือกับผู้บริหารยุคใหม่ ในการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นสถานศึกษาใหม่ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ

ภาณุ วงษ์ถาวรเรือง
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
ที่มา.ส.น.ง.รมต.ศธ.

Sunday, December 19, 2010

ด่วนที่สุด ประกาศผลการสรรหาผู้อำนวยการเขตฯมัธยมศึกษาทั้ง ๒๓ ตำแหน่ง

ประกาศผล ปั๊บก็รายงานตัวเข้ารับการพัฒนาก่อนแต่งตั้งปุ๊บทันที ๒๑-๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่สถาบัน สคบศ. คิวต่อไปเป็นรองฯผอ.สพม. ผู้มีคุณสมบัติโปรดเตรียมตัว

ประกาศผลผอ.เขตฯมัธยมฯกลุ่มสอบคัดเลือก
ประกาศผลผอ.เขตฯมัธยมฯกลุ่มคัดเลือก

ขอแสดงความยินดีกับท่านผอ.เขตฯมัธยมศึกษาทุกท่าน ครับ พิเศษ พี่ประวิทย์ หลักบุญ พี่ทำได้แล้วครับ

เอ้า....คิวต่อไป เป็นตำแหน่ง รองฯผอ.สพม. ราวต้นปี ๒๕๕๔ หลังท่านผอ.เขตฯมัธยมป้ายแดง ทั้ง ๒๓ ท่านเข้ารับบรรจุแต่งตั้งกลางเดือนมกราคม ๒๕๕๔

Wednesday, December 15, 2010

ผู้อำนวยการมัธยมพลัดถิ่นงานงอก...อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเตรียมบรรจุแต่งตั้งผอ.และรองฯผอ.ใหม่

จากบัญชีผู้สอบแข่งขันตาม สพท.เดิม งานนี้มีเฮ(ไม่ออก) คงมีการฟ้องร้องกันสนั่นครับ พ่อแม่พี่น้อง. มูลเหตุคือ บัญชีการสอบภาค ข และ ค ของ สพท.เดิมนั้น กลุ่มคนการมัธยมศึกษาสอบได้ลำดับที่ต้นๆ ได้รับการบรรจุแต่งตั้งกันหมดแล้วเป็นส่วนใหญ่(เป็นผอ./รองฯผอ.มัธยมพลัดถิ่น) ถึงครานี้ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ จะบรรจุแต่งตั้งตามบัญชีเดิมโดยแยกชัดเจน ประถม - มัธยม ตามข่าวนี้ เอ้า..ศาลปกครอง มีงาน...

ก.ค.ศ.เร่งแต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษา (16 ธ.ค. 53)
(15ธ.ค.) นาย ชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นที่มีผู้สอบขึ้นบัญชีในตำแหน่งรองและผู้อำนวยการ สถานศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) เดิมและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร (สพท.กทม.) แสดงความเป็นห่วงถึงความล่าช้าในการแต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษา

เนื่อง จากเป็นช่วงระยะเปลี่ยนผ่านที่มีการแก้ไขกฏหมาย และมีการสรรหาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งรองและผู้อำนวยการสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้งรองและผอ.สถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขณะนี้เป็น อำนาจของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

“ที่ ประชุมได้ให้ดร.ชินภัทร ภูมรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ในฐานะประธาน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ไปดำเนินการบริหารจัดการเพื่อให้การบรรจุและแต่งตั้งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของ การแบ่งเขตพื้นที่การศึกษา โดยผู้ที่มีประสบการณ์ในการบริหารมัธยมก็ให้บรรจุและแต่งตั้งในเขตพื้นที่ มัธยม ส่วนผู้มีประสบการณ์ในการบริหารประถมก็ให้บรรจุและแต่งตั้งในเขตพื้นที่ ประถม สำหรับกรณีเขตพื้นที่มัธยมในกทม.ก็ให้ใช้บัญชีในเขตพื้นที่ กทม.เดิมมาบรรจุและแต่งตั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้การคัดเลือกคนได้เหมาะสมกับงานและประหยัดงบประมาณไม่ต้องเปิดสอบ ใหม่ และให้เลขาธิการ กพฐ.รายงานผลให้ ก.ค.ศ.ทราบต่อไป” นายชินวรณ์ กล่าว

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ก.ค.ศ. ยังเห็นชอบให้แก้ไข พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้สอดคล้องกับการเสนอแก้ไขกฏหมายว่าด้วยเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยให้แก้ไขคำว่า “ขั้นเงินเดือน” เป็น “เงินเดือน” รวมทั้งต้องปรับหลักเกณฑ์และกฏกระทรวงเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นเงินเดือน และการลงโทษทางวินัยให้สอดคล้องต่อไป

นอก จากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบปฏิทินการเลือกตั้งกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. และอ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ดังนี้ วันที่ 27 ธ.ค.2553-5 ม.ค.2554 ประกาศเลือกตั้ง 6-9 ม.ค. รับสมัคร 6-10 ม.ค. ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร 11 ม.ค. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับเลือกตั้ง 19 ม.ค. เลือกตั้ง และ 20 ม.ค.แจ้งรายงานผลการนับคะแนนมายังสำนักงาน ก.ค.ศ.

ที่มา : คม ชัด ลึก วันพุธที่ 15 ธันวาคม 2553

Monday, December 13, 2010

ด่วนมาก ประกาศผลการสอบข้อเขียนภาค ก ผอ.สพม.กลุ่มสอบคัดเลือกแล้ว

ดูว่าที่ ผอ.เขตฯสพม. 22 คน จะคัดเลือกจากภาค ข และ ภาค ค ให้เหลือ 11 คน เข้าพัฒนาก่อนแต่งตั้งและบรรจุมกราคม ๒๕๕๔ นี้

รายชื่อผู้ผ่านการสอบข้อเขียนภาค ก ผอ.สพม.

สู้ต่อไป

Saturday, December 11, 2010

ติวสอบภาค ก ผู้บริหารสถานศึกษามัธยม/ประถม , ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบผอ.สพม.แล้ว

ตามลิงค์ รายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ ผอ.สพม.

แบบสอบคัดเลือก

แบบคัดเลือก

ขอให้โชคดีทุกท่าน ได้เป็นใหญ่เป็นโตแล้ว ก็อย่าลืมน้องๆนะครับ

ด่วนที่สุด ชมรมพัฒนาครูไทย ติวสอบภาค ก ผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง ประถมและมัธยมฯ

วันที่ 18-19 ธันวาคม 2553 ที่โรงแรมสาเกตนคร เมืองร้อยเอ็ด

โทร 087 9897389

รายละเอียด ดูเวบ สอบครูดอทเน็ต
เวบครูคลับดอทคอม

ท่านที่จะสอบผอ.โรงเรียน สังกัดมัธยมศึกษา ต้องเป็นรองฯผอ.โรงเรียน(ชำนาญการหรือชำนาญการพิเศษขึ้นไป) หรือ ครูชำนาญการพิเศษ
รองฯผอ.โรงเรียน มัธยมศึกษา ต้องเป็นครูชำนาญการหรือวิทยฐานะสูงกว่านี้
ส่วน ผอ.โรงเรียนประถมศึกษา เกณฑ์น่าจะเหมือนเดิม ของ สพฐ.คือ
ผอ./รองฯผอ.โรงเรียน โรงเรียนประถมศึกษา ครู ,ครูชำนาญการ หรือวิทยฐานะสูงกว่านี้

Saturday, December 4, 2010

ด่วน..ติวสอบภาค ก ผู้บริหารสถานศึกษาหลักสูตร สพฐ.ทั้งมัธยมและประถมศึกษา

ขออนุญาต ประชาสัมพันธ์ ติวสอบภาค ก ผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษาและประถมศึกษาหลักสูตร สพฐ.
ด่วน..ชมรมพัฒนาครูไทย ติวสอบผู้บริหารสถานศึกษา ภาค ก เตรียมความพร้อม ปี 2554 หลักสูตร สพฐ.

วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 18 - 19 ธันวาคม 2553 ณ ห้องทับทิม โรงแรมสาเกตุนคร อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

วิทยากร ชมรมพัฒนาครูไทย โดย
๑.ผอ.ยุทธพงษ์ชัย เกตุบาง (พลัดถิ่น) ผอ.ภาค ก ปี 2550 ที่ผ่านสนามสอบที่หินที่สุดจากโคราช ไปบรรจุที่ลพบุรี
จบการศึกษาระดับปริญญาโท บรรยาย ด้านการบริหารบุคคล และบริหารทั่วไป
๒.ผอ.ชัยทัศน์ จ้องสกุลวงศ์ (ty) ผอ.ภาค ก ปี 2550 และสอบภาค ข และ ค ในลำดับที่ 1 ของเขตพื้นที่ฯ
จบการศึกษาระดับปริญญาโท บรรยาย ด้านวิชาการ และด้านงบประมาณ
๓.ผอ.สันต์ธวัช ศรีคำแท้ (Invisible Wave หรือ Sub-Admin1--พลัดถิ่น)) ผอ.ภาค ก ปี 2550 (สอบได้ลำดับที่ 1 และสละสิทธิ์) ปี 2552 สอบผ่านภาค ก ด้วยคะแนนสูง และสอบ ภาค ข และ ค ได้ลำดับที่ 1
นิสิตระดับปริญญาเอกด้านการบริหารการศึกษาในปัจจุบัน บรรยายด้านสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษา และนโยบายการศึกษา

ประกอบคำบรรยายพร้อมตัวอย่างข้อสอบภาค ก ที่วิทยากรทุกคน สอบผ่านหลายสนามสอบด้วยผลการสอบลำดับที่ 1

ด่วน...รับจำนวนไม่มากต่อรุ่น สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียด 087 9897389 หรือ 089 2042943

ด่วนที่สุด..รับสมัครคัดเลือกและสอบคัดเลือกผอ.เขตฯมัธยมศึกษา 23 ตำแหน่ง

รับสมัครได้เพียงวิธีเดียวคือจาก 2 วิธีคือ(๑) คัดเลือก 12 ตำแหน่ง(16 ธันวาคม 53) (๒) สอบคัดเลือก 11 ตำแหน่ง(12 ธันวาคม 53) ไม่ต้องแย่งกัน ได้ทุกคน(ถ้ามีคุณสมบัติสมัครสอบนะ) ไม่มีการค้างบัญชีไว้เพราะเป็นการสรรหาแบบเฉพาะกิจ ว่างั้น ปีหน้าว่ากันใหม่ ด่วน..ผอ.พลัดถิ่นทุกท่าน โปรดเตรียม(ทำ)ใจรอ ข่าวจากรั้วกำแพงข้างๆตึก สพฐ.กระซิบกระซาบกันให้แซ่ดว่า เร็วๆนี้(ต้นปี 2554) จะมีการเปิดให้ผอ.พลัดถิ่นทุกคนเขียนย้ายกลับ โปรดอย่าติดตาม แต่จงรอโอกาสด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน!!!
หนังสือจาก สพฐ.ประกาศการสรรหาผอ.เขตฯมัธยมศึกษา
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผอ.เขตฯมัธยมศึกษา
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกผอ.เขตฯประถมศึกษา
หนังสือจากสพฐ.แจ้งหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผอ.เขตฯประถมฯและมัธยมศึกษา
สรุปตารางการสรรหาผอ.เขตฯมัธยมศึกษา
(๑)สอบคัดเลือก
รับสมัคร วันที่ ๖-๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่สำนักงาน ก.ค.ศ.(ตึกชั้น ๕ อาคารรัชมังคลาภิเษก)
ประกาศรายชื่อ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓
สอบคัดเลือก(ภาค ก) ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๓
สอบคัดเลือก(ภาค ข..ต้องผ่านภาค ก ร้อยละ ๖๐ เท่านั้นจึงจะได้สิทธิ์ไปต่อ)๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๓
สอบคัดเลือก(ภาค ค) วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ (ภาค ง ไม่มี เอิ๊กส์ๆๆๆ)
(๒)กลุ่มคัดเลือก
รับสมัคร วันที่ ๖-๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่เดียวกับกลุ่มสอบคัดเลือก
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์คัดเลือก ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๓
คัดเลือก(ภาค ก) วันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๓
คัดเลือก(ภาค ข) วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๓

(ภาค ค และ ภาค ง ไม่มีในกลุ่มคัดเลือกนี้ เอิ๊กส์ๆๆๆ)

Tuesday, November 30, 2010

ด่วน..สพฐ.เปิดการสรรหา(คัดเลือกและสอบคัดเลือก)ผอ.และรองฯผอ.เขตฯสพป/สพม.แล้ว

ผอ.มัธยมศึกษาพลัดถิ่นท่านใดมีคุณสมบัติ รีบเตรียมตัวด่วน....ตามโปรแกรมแต่งตั้ง มกราคม ๒๕๕๔(เขาว่าอย่างนั้นนะครับ)

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.และรองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา (สพม.) โดยกำหนดให้มาจาก 2 ทาง คือ การสอบคัดเลือกและการคัดเลือก ซึ่งคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้ารับการสอบคัดเลือกและการคัดเลือกให้เป็นไป ตามมาตรฐานตำแหน่งของ ผอ.สพท. ซึ่งกลุ่มสอบคัดเลือกจะเน้นตามมาตรฐานตำแหน่งและประสบการณ์ โดยจะมีการสอบ 3 ภาค 400 คะแนน แบ่งเป็นภาค ก.สอบข้อเขียน 100 คะแนน ภาค ข.ประเมินสมรรถนะ 100 คะแนน และภาค ค. ประเมินประวัติ ผลงาน วิสัยทัศน์และแนวทางพัฒนาเขตพื้นที่การศึกษา 200 คะแนน โดยผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกต้องได้คะแนนภาค ก. ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ซึ่งจะคัดไว้ไม่เกิน 2 เท่าของตำแหน่งที่ว่าง จากนั้นจะประเมินภาค ข. และ ค. โดยคะแนน 2 ภาคนี้รวมกันต้องผ่านร้อยละ 60

รมว.ศธ.กล่าวว่า สำหรับกลุ่มคัดเลือกจะสอบ 2 ภาค 400 คะแนน แบ่งเป็นภาค ก. การแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาเขตพื้นที่การศึกษา และภาค ข. การประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์รวมร้อยละ 60 และคัดเลือกไว้ไม่เกิน 2 เท่าของตำแหน่งที่ว่าง โดยจะประกาศผลการประเมินเรียงตามลำดับคะแนน และให้เข้ารับการพัฒนาตามหลักสูตรที่ ก.ค.ศ.กำหนดก่อนการบรรจุและแต่งตั้ง

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้สรรหา ผอ.สพม.ในตำแหน่งที่ว่างอยู่ 23 ตำแหน่ง โดยกำหนดให้มาจากการสอบคัดเลือก 11 ตำแหน่ง และการคัดเลือก 12 ตำแหน่ง พร้อมทั้งเห็นชอบปฏิทินการรับสมัครดังนี้

ประกาศรับสมัครภายในวันที่ 3 ธ.ค.

รับสมัคร 7-9 ธ.ค. โดยกลุ่มสอบคัดเลือกสมัครที่สำนักงาน ก.ค.ศ. และกลุ่มคัดเลือกสมัครที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)

ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์ภายใน 15 ธ.ค.

และประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกภายใน 28 ธ.ค.

บรรจุและแต่งตั้งเป็น ผอ.สพม.วันที่ 15 ม.ค.2554


ทั้งนี้การสอบและคัดเลือกในครั้งนี้จะไม่มีการขึ้นบัญชีไว้ เนื่องจากเป็นการสอบในช่วงเปลี่ยนผ่านและมีการกำหนดตำแหน่งที่ชัดเจนจึงไม่ มีเหตุสมควรที่จะขึ้นบัญชีไว้

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง(ก็ว่ากันไป..)

นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ รองผอ.สพป.ร้องเรียนขอให้มีสิทธิ์ในการสมัครเข้ารับการคัดเลือก ผอ.สพม.ครั้งนี้นั้น หากใครมีคุณสมบัติตามมาตรฐานตำแหน่ง คือ บริหารการมัธยมมาไม่น้อยกว่า 5 ปีก็สามารถเข้ารับการคัดเลือกได้ ส่วนที่จะมีการฟ้องศาลปกครองกลางนั้นก็ให้ว่ากันไปตามขั้นตอนของกฏหมาย สำหรับกรณีของ รักษาการ ผอ.สพม.ก็สามารถยื่นความประสงค์เข้ารับการคัดเลือกได้ แต่ก็ต้องมีเงินเดือนไม่ต่ำกว่า ขั้นต่ำของ คศ.4 ตามมาตรฐานตำแหน่ง ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามี 3 คนที่ขาดคุณสมบัติดังกล่าว

ด้านนายวีระ เกตุแก้ว รอง ผอ.สพป.กำแพงเพชร เขต 1 ในฐานะอุปนายกสมาคมนักพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้รอง ผอ.สพป. 1,941 คน ขาดคุณสมบัติเพราะไม่มีใครมีประสบการณ์ในการบริหารการมัธยมมา 5 ปี จึงถือว่าเกณฑ์ดังกล่าวไม่เป็นธรรม ดังนั้นจะฟ้องศาลปกครองกลางทันทีที่มีการประกาศรับสมัคร ผอ.สพม.


ที่มา - เดลินิวส์

ด่วน...ขยายเวลาย้ายผอ.โรงเรียนมัธยมจาก ๓๐ พ.ย.เป็น ๓๐ ธันวาคม ปีนี้(นึกแล้ว)

นึกอยู่แล้วว่าจะต้องเลื่อน (คอยจับตาดูช่วงธันวาคม ๒๕๕๓ นี้ว่า จะเลื่อนไปอีกไหม)

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่ประชุมได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับการสั่งให้ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาออกจากราชการ เมื่อทางราชการเลิก หรือยุบตำแหน่ง โดยให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งให้ผู้นั้นทราบ และให้แสดงความประสงค์ว่า ต้องการรับราชการต่อไปหรือไม่ ถ้าไม่ประสงค์ ก็ให้ผู้มีอำนาจสั่งให้ออกจากราชการ เพื่อรับบำเหน็จบำนาญเหตุทดแทนตามกฏหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ นับแต่วันที่ตำแหน่งนั้นเลิก หรือถูกยุบ และให้ได้รับเงินชดเชยตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด และหากประสงค์จะรับราชการต่อ ให้แสดงความจำนงว่า จะรับราชการในตำแหน่งใด หน่วยงานใด และให้ส่วนราชการที่เลิก หรือยุบตำแหน่งดำเนินการตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน แต่หากเป็นกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ให้เสนอ ก.ค.ศ.พิจารณา

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการขยายระยะเวลาในการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ไปแต่งตั้งในตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากเกษียณอายุราชการ และตำแหน่งว่างกรณีอื่น ๆ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จากเดิมที่กำหนดให้ดำเนินการย้ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.2553 เป็นวันที่ 30 ธ.ค.2553 ทั้งนี้ เพื่อให้การพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสายมัธยมศึกษา มีประสิทธภาพ และเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานตำแหน่ง ไปสมัครสอบ หรือคัดเลือก เพื่อดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.ได้ ทั้งนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายต้องคำนึงถึงระบบคุณธรรม และความรู้ความสามารถ

นอกจากนี้ ก.ค.ศ.ยังเห็นชอบให้ย้าย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 2 ราย ดังนี้ นายปราโมทย์ ส่งสิงห์ ผอ.สพป.ยะลา เขต 3 เป็น ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 ว่าที่ ร.ต.นรินทร์ สาโร ผอ.สพป.ปัตตานี เขต 3 เป็น ผอ.สพป.ยะลาเขต 3 และย้าย นางอรพันธุ์ สุทิน รอง ผอ.สพป.กรุงเทพมหานคร เป็น รอง ผอ.สพม. เขต 2.


ที่มา - เดลินิวส์

Thursday, November 25, 2010

ด่วน..การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาให้ดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาสังกัด สพม.

เป็นการเปิดเผยเกณฑ์การย้าย ดังที่เคยได้เห็นมาแล้ว แค่นั้นแหละ ตามลิงค์

การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาให้ดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาสังกัด สพม.


การย้ายครูสายงานการสอนสังกัดมัธยมศึกษา

ขอให้โชคดีทุกท่านครับ

หากไม่ได้ดังคำขอ ก็ขอให้ทำใจ มีผู้สมหวังก็ต้องมีผู้ไม่สมหวัง ให้กำลังใจทุกท่าน

Monday, November 22, 2010

หนังสือจาก สพฐ.ให้ ตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนต่างๆไป สพม.

ตามคาด สพฐ.ให้ สพท.ต่างๆ ตัดโอนตำแหน่ง อัตราเงินเดือนของครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกประเภท ไปยัง สพม.

หนังสือด่วน..ตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของบุคลากรของ สพม.


ผอ.เขต และ รอง ผอ.เขต สพม. จะมีการเกลี่ยเรื่องย้ายอีกรอบแน่นอน เพราะยังมีผอ.และรอง ผอ.ฯ เขต การมัธยมศึกษา เดิมติดค้างอยู่เพียบ(และสมัครใจเขียนย้ายกลับ) ข่าววงในรอบรั้วเสมา เปรยๆว่า ตำแหน่งผอ.เขต สพม. ที่จะว่างเพื่อเปิดให้มีการสรรหาผอ.ป้ายแดงนั้น อาจมีไม่ถึง ๑๕ ตำแหน่ง ส่วนรองฯผอ.เขต สพม. ก็อยู่ที่ ๒๐-๓๐ คน จะถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้

ส่วนผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่น ไม่ได้มีการกล่าวถึงแต่อย่างใด (เศร้ากว่า)

Thursday, November 18, 2010

เกณฑ์ประเมินศักยภาพผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษาในการย้าย

เห็นเกณฑ์นี้มามานานแล้ว ขอเรียนว่า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นครับเพื่อประกอบการย้ายและประเมินศักยภาพ ไม่ได้หมายความว่าท่านเขียนย้ายแล้วได้คะแนนตามเกณฑ์เต็ม ๑๐๐ คะแนน แล้วท่านจะได้ย้ายไปโรงเรียนนั้นจริงๆ เพราะยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย (ในเกณฑ์นี้ ) เช่น เกณฑ์ที่ไม่เป็นปรนัยต่างๆ (ข้อ ๑.๑ ,๑.๒ ,๑.๓ ฯลฯ) ขอให้กำลังใจทุกท่านครับ พิเศษ...ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่น

หลักเกณฑ์การประเมินศักยภาพผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อประกอบการย้าย


ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นทุกท่าน สู้สู้



ขอบคุณ เวบครูไทยดอทอินโฟ

ใกล้แล้ว...ย้าย..ผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษารอบ 1-15 สิงหาคม 2553


นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษาทั่วประเทศ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายของเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 42 เขต กำลังพิจารณารายชื่อการย้ายในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จากนั้นจะต้องเสนอผลการพิจารณามาให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญชุดปฏิบัติหน้าที่แทน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเป็นผู้พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง โดยขณะนี้ได้มอบแนวทางไปแล้วว่า จะต้องพิจารณาย้ายในครั้งแรกภายในเดือนพฤศจิกายน และตามขั้นตอนจะมีการโยกย้ายในรอบสองและสามอีก โดยที่หลักเกณฑ์การพิจารณาการย้ายจะมีหลายองค์ประกอบพิจารณา อาทิ ดูจากขนาดของโรงเรียน เป็นต้น
แหล่งข่าวในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยถึงแนวทางการพิจารณากลั่นกรองการย้ายแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในสถาน ศึกษาสายมัธยมศึกษาว่า สพฐ.ได้แจ้งแนวทางไปยังเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแล้ว โดยกำหนดหลักการว่าการพิจารณาย้ายให้เป็นไปตามเงื่อนไขการใช้ตำแหน่งว่าง การย้ายสับเปลี่ยนโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับการจัดการศึกษา ซึ่งเงื่อนไขในการใช้ตำแหน่งว่างนั้น

1.สถานศึกษาที่รับย้ายต้องมีอัตรากำลังของสายงานบริหารสถานศึกษาไม่เกิน กรอบอัตรากำลังที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำหนด

2.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เสนอจำนวนตำแหน่งว่างให้ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ กำหนดสัดส่วนของจำนวนตำแหน่งว่างของกลุ่มสถานศึกษาสายมัธยมศึกษาที่จะใช้รับ ย้าย และที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้งจากบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือกให้ใกล้เคียงกัน

เว้นแต่ไม่มีผู้ได้รับการคัดเลือกขึ้นบัญชีรอการบรรจุและแต่งตั้ง หรือไม่มีผู้ขอย้ายลงตำแหน่งว่าง ให้ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯพิจารณาใช้ตำแหน่งว่างได้ตามเหมาะสม

"ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาให้นำคำร้องของผู้ประสงค์ขอย้ายทุกรายมาพิจารณาพร้อมกันในคราวเดียว โดย

1.ให้พิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษาในสายมัธยมศึกษา ด้วยกัน ซึ่งมีขนาดสถานศึกษาเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน โดยให้มีการประเมินศักยภาพของผู้ยื่นคำร้องใน 8 องค์ประกอบ ได้แก่ วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำ ความรู้ความสามารถในการพัฒนาสถานศึกษา ผลการปฏิบัติงาน ประสบการณ์ คุณวุฒิ การรักษาวินัยและจรรยาบรรณ ความอาวุโสตามหลักราชการ และระยะเวลาดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติงานในหน่วยงานการศึกษาปัจจุบัน และ

2.หากพิจารณาแล้วยังมีตำแหน่งว่างเหลืออยู่ ให้พิจารณาผู้บริหารสถานศึกษาที่ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษา ที่ต่างไปจากที่กำหนดไว้ อาทิ ย้ายไปสถานศึกษาที่ต่างกลุ่ม เป็นต้น" แหล่งข่าวกล่าว

....ผอ.มัธยมพลัดถิ่นท่านใดเขียนช่วงเวลาดังกล่าวก็ลุ้นเอาเองก็แล้วกัน.....

ที่มา - มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1289986427&grpid=&catid=19&subcatid=1903

Sunday, November 14, 2010

แนวทางการพิจารณากลั่นกรองการย้ายผู้อำนวยการสถานศึกษาการมัธยมศึกษา-มาแล้ว

ออกมาแล้ว แนวทางการพิจารณากลั่น กรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษา สำหรับผู้เขียนย้าย ๑-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ ใครจะได้ไปอยู่ที่ใด มัธยมพลัดถิ่นจะได้กลับถิ่นหรือไม่ เร็วๆนี้ โปรดติดตาม(สำหรับปีนี้)

แนวทางการพิจารณากลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษา

Thursday, November 11, 2010

มาแล้ว..เรียกร้องกันมาก สพฐ.จัดมา หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา

แก้ไขใหม่แล้ว หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาฯตามหนังสือ ก.ค.ศ.ลงวันที่ 29 กรกฏาคม 2552 ให้ใช้หลักเกณฑ์ที่แก้ไขใหม่ ตามหนังสือ ก.ค.ศ.ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2553 แทนโดยใช้ในการเขียนย้ายช่วงเวลา 1 - 15 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา

หนังสือสพฐ.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา


ท่านผอ./รองฯผอ.ที่เขียนย้ายช่วง 1-15 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมาเตรียม เฮ

Monday, November 8, 2010

เกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาแนวทางที่จะแก้ไขใหม่(อีกแล้ว)...

จะประกาศใช้ในเร็วๆนี้ พูดก็พูดเถอะ...เกณฑ์ต่างๆที่แก้แล้วแก้อีก ใช้ไปแก้ไปนั้น จริงๆแล้ว ถามหน่อย..มี สพม/สพป.ไหนใช้กันจริงๆจังๆและเคารพในเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นกันบ้าง มีเกณฑ์...แต่.......
จากการประชุม ก.ค.ศ.เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางในการปรับแก้เกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถาน ศึกษา สังกัด สพฐ. ซึ่งจะใช้ในปี ๒๕๕๔ ในประเด็นต่างๆ เช่น

(๑) คุณสมบัติของผู้ขอย้ายเกี่ยวกับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ปรับจาก ๑๒ เดือน เป็น ๒๔ เดือน

(๒) กำหนดเวลาการยื่นคำร้องขอย้าย ให้ยื่นคำร้องขอย้ายในเดือนพฤษภาคม หรือเดือนมิถุนายน เพื่อให้การดำเนินการย้ายเสร็จก่อนวันที่ ๑ ตุลาคม

(๓) กำหนดระยะเวลาการพิจารณาให้แล้วเสร็จในครั้งแรกของการพิจารณา ภายใน ๓๐ กันยายน

(๔) กำหนดขนาดสถานศึกษาใหม่ ทั้งระดับมัธยมศึกษา และประถมศึกษา

(๕) องค์ประกอบของคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย พิจารณาใหม่ทั้งระดับมัธยมศึกษา และประถมศึกษา

(๖) ความเห็นคณะกรรมการสถานศึกษาจะมีปัญหาต่อการปฏิบัติ จึงต้องกำหนดให้ชัดเจนตามที่กฎหมายกำหนด และให้มีการจัดอันดับด้วย

ที่มา เวบครูไทยดอทอินโฟ

เปิดองค์ประกอบคณะกรรมการการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษา

งานนี้ "ท่านรองฯผอ.โรงเรียน"ได้เปรียบเพราะมีพรรคพวกเข้าเป็นคณะกรรมการฯตั้ง ๔ คน ไม่เห็นมีผอ.พลัดถิ่นสักคน..

สพฐ.เป็นผู้แต่งตั้ง คณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสายมัธยมศึกษา ตามคำร้องขอย้ายที่ยื่นระหว่าง ๑-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ ประกอบด้วย

(๑) ผู้ที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมอบหมายมอบหมาย ประธาน

(๒) ผอ.สพม. หรือผู้ที่รักษาราชการแทน กรรมการ

(๓) ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพมัธยมศึกษาตอนปลายจังหวัด ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการย้าย จังหวัดละ ๑ คน รวมแล้วไม่เกิน ๔ คน กรรมการ

(๔) ผู้แทนผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการย้าย ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่พิเศษ รวมแล้วไม่เกิน ๔ คน กรรมการ

(๕) ผู้แทนรองผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการย้าย ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และขนาดใหญ่พิเศษ รวมแล้วไม่เกิน ๔ คน กรรมการ

(๖) ประธานกรรมการสถานศึกษาสายมัธยมศึกษา ที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการย้าย จำนวน ๒ คน สำหรับ ๑ จังหวัด กรณีหลายจังหวัดๆ ละ ๑ คน กรรมการ

(๗) รอง ผอ.สพม. ที่รับผิดชอบการบริหารงานบุคคล กรรมการและเลขานุการ

โปรดติดตามตอนต่อไป
ที่มา...เวบครูไทยดอทอินโฟ

Saturday, November 6, 2010

โผ...ร้อนแรง...เปิดร่างการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้บริหารสถานศึกษาการมัธยมศึกษา

เวบครูไทยดอทอินโฟ ของรองฯอุเทน ทองสวัสดิ์ เปิดร่างการเข้าสู่ตำแหน่งของผู้บริหารสถานศึกษาการมัธยมศึกษา ร่างเกณฑ์ดังกล่าวนี้ถือว่าของเค๊าแรงจริงจริง.....!!! ผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นมีโอกาสร้อยละ 20 ดูตามลิงค์นี้ครับ


การเข้าสู่ตำแหน่งของผู้บริหารสถานศึกษาการมัธยมศึกษา


คุณสมบัติเฉพาะของผู้บริหารสถานศึกษาการมัธยมศึกษา


ถึงแม้นี่เป็นร่างเท่านั้น แตก็คงเปลี่ยนแปลงไปไม่มาก ใครมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ยังไงโปรดเตรียมตัว ทั้งการสอบ การย้าย สำหรับผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นก็อาจจะมีที่ยืนร้อยละ 20

ขอบคุณเวบครูไทยดอทอินโฟ

ก.ค.ศ.อนุมัติแล้ว กรอบอัตรากำลังของบุคคลตามมาตรา 38 ค(๒)ใน สพม.

หลังจากถกเถียงกันพอสมควรเกี่ยวกับอัตรากำลังของบุคคลตามมาตรา 38 ค (๒) ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ซึ่งมีส่วนที่แตกต่างกันคือ ใน สพม.1-2 และ สพม.3-42 จะมีจำนวนอัตราที่แตกต่างกัน (ในอนาคตไม่ช้านี้ เราก็จะได้เห็นบุคลากรเหล่านี้ดิ้นรนย้ายเข้าไปในกรุงเทพมหานครและกระจุกตัวอยู่ตรงนั้นทั้งการช่วยราชการหรือด้วยวิธีการอย่างอื่นตาม "พลัง"และ Back)

หนังสือนำแสดงอัตรากำลังของบุคคล 38 ค(๒)


สพม.ก็เอื้อให้คนไปกระจุกตัวอยู่ใน สำนักงานเขตฯใหญ่ๆเหมือนเดิม เหมือนกับครูที่ต้องดิ้นรนย้ายเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนใหญ่ๆ ประจำจังหวัด ประจำอำเภอ เพราะหนทางความก้าวหน้าในตำแหน่งหรือวิทยฐานะสดใสกว่า เราจะได้เห็นบรรยากาศนั้นนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สังเกตจากการสำรวจความสมัครใจแล้ว ขอสมัครใจไปทำงานใน สพม.กันจนเกินจำนวน.....หรือใครจะเถียง

Tuesday, November 2, 2010

การแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษามัธยม

วันนี้(2 พ.ย.53)มีคณะสมาคมรองผู้อำนวยการโรงเรียน ไปยื่นข้อเรียกร้องที่ กรุงเทพฯ เรื่องการย้ายครับ วันนี้เช่นกัน สพฐ.ให้เขตฯส่ง รายชื่อคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย ไปที่ สพฐ.ภายในวันที่ ๔ พ.ย. ๒๕๕๓ ดูลิงค์นะครับ


การแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษา

Monday, November 1, 2010

มาตรฐานตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(ใหม่) โอ...

สงสัยต่อไป ได้เป็นผอ.เขต ฯ คนละ 1 ปี บ้าง 6 เดือน บ้าง เพราะมาตรฐานสูงเหลือเกิน
จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ ๑๐/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ที่ประชุม ก.ค.ศ. เห็นชอบการพิจารณาประสบการณ์ด้านการบริหารการประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โดยมีการกำหนดมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดังนี้

๑. หน้าที่และความรับผิดชอบ เป็นผู้บริหารราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษา และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษา

๒. ลักษณะงานที่ปฏิบัติ การบริหารและการจัดการศึกษา การพัฒนางานวิชาการ การบริหารงานบุคคล การบริหารงบประมาณ การบริหารทั่วไป

๓. คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้ดำรงตำแหน่ง

- มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนด

- ดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สพท. มาแล้วไม่น้อยกว่า ๑ ปี และรับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำของอันดับ คศ.๔ หรือดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าวิทยฐานะผู้ อำนวยการเชี่ยวชาญหรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า ทั้งนี้ จะต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารการประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษา แล้วแต่กรณี มาแล้วไม่น้อยกว่า ๕ ปี

- มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา

- ผ่านการพัฒนาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด

๔. การให้ได้รับเงินเดือน ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.๔ หากผู้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพท. ผู้ใดผ่านการประเมิน มีวิทยฐานะ ผอ.สพท. เชี่ยวชาญ หรือเชี่ยวชาญพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนดแล้ว ให้ได้รับเงินเดือนอันดับ คศ.๔ หรือ คศ.๕ ตามลำดับ

--------------------------------------------------
ที่มา -http://www.moe.go.th/websm/2010/oct/370.html

ความเคลื่อนไหวการย้าย ผอ.สถานศึกษา สายมัธยมศึกษารอบ 1-15 สิงหาคม 2553

ล่าสุด...ตามนั้น
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอขอแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด สพฐ.ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ.ด่วนที่สุด ที่ ศธ 0206.4/2677 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม ดังนี้ ให้พิจารณาการย้ายครั้งแรกให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน เมื่อมีตำแหน่งว่างหลังจากการย้ายครั้งแรก ให้สามารถใช้ย้ายผู้บริหารสถานศึกษาต่อเนื่องกันได้ จนครบตำแหน่งว่างตามสัดส่วนการใช้ตำแหน่งว่างที่คณะอนุกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษากำหนด หรือจนไม่มีคำร้องของผู้ประสงค์ขอย้ายมาดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาที่ว่างนั้น แล้วจึงนำตำแหน่งว่างที่เหลือไปใช้แต่งตั้งจากบัญชีผู้ได้รับการคัดเลือก
อย่างไรก็ตาม เรื่องกำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาสาย มัธยมศึกษาใหม่นั้น เห็นชอบตามที่สมาคมรองผู้อำนวยการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย ได้เสนอให้มีผู้แทนรองผู้อำนวยการสถานศึกษาไม่เกิน 4 คน จากเดิมที่กำหนดให้มี 1 คน โดยมาจากการเลือกกันเอง สำหรับสัดส่วนผู้แทนผู้อำนวยการสถานศึกษา ยังคงใช้เกณฑ์เดิมคือ ไม่เกิน 4 คน

-------------------------------------------------------------------------------
ที่มา - มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288597157&grpid=03&catid=19&subcatid=1903

สพฐ.จัดหนัก..ย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตฯ ชุดใหญ่...ใครเป็นใครไปดูกัน

มาแล้ว....สพฐ. ย้ายและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ผอ./รองฯผอ.เขตฯ)ชุดใหญ่ ใครเป็นใคร จากไหนไปไหน มาจากบัญชีสอบเท่าไหร่ ไปดูกัน จัดมา


หนังสือนำจาก สพฐ.

คำสั่งย้าย ผอ.เขตฯ

คำสั่งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ใน สพม.

คำสั่งย้าย รองฯผอ.เขตฯ

แบบกรอกข้อมูลบุคลากรในเขตพื้นที่ฯ

ใครมีคุณสมบัติสอบรองฯ / ผอ.เขตฯ ทั้ง สพป. สพม. เตรียมตัวเข้ารับการสรรหา อัตราตำแหน่งของ สพป.มีมาก ส่วน ผอ.สพม.นั้น มีไม่น่าจะเกิน 15 คน

Saturday, October 30, 2010

ระทึก...ผลการย้ายผอ.สพม./ ผอ.สพป.และแต่งตั้งผอ.สพป.ใหม่...

โปรดติดตามด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน...!!!
คำสั่งย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง สพป ,สพม ใกล้คลอดแล้ว ข่าวเล็ดลอดออกมาบริเวณซุ้มหน้าอาคารหอพักคุรุสภา ประมาณนี้...
๑.รักษาการผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ส่วนหนึ่ง...สิ้นสุด(กลับไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาเช่นเดิม)แถบๆภาคอีสานเยอะ...
๒.ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(ที่เคยเป็น/อยู่/คือ การมัธยมศึกษา)ส่วนหนึ่ง...ได้ย้ายกลับมาเป็นผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
๓.ผู้ขึ้นบัญชีการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเมื่อครั้งล่าสุด...ส่วนหนึ่ง...ได้บรรจุแต่งตั้งเป็นผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแทนตำแหน่งในข้อ ๒...
๔.ตำแหน่งว่างของผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่เหลือจำนวน...หนึ่ง...นั้น จะถูกเกณฑ์ 50/50 ---สรรหา(สอบคัดเลือก)/โอนย้ายจากผอ.สพป.ที่เคยอยู่การมัธยมศึกษาและสมัครใจมา

สรุป จะมีผอ.สพม.ป้ายแดง สด ซิง ที่ได้จากการสรรหาโดยการสอบคัดเลือกประมาณไม่เกิน 10-15 คน

จบข่าว โปรดรอคอยด้วยความระทึกในดวงหทัยพลัน...

Friday, October 29, 2010

ด่วน...สพฐ.ให้สำนักงานเขตฯทุกเขต ส่งสรุปผลการคัดเลือกข้าราชการครูฯ

ด่วน...สพฐ.ให้สำนักงานเขตพื้นที่ฯทุกเขต(สพป.)ส่งสรุปผลการคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ตามแบบที่กำหนด ส่งภายในวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ นี้ เพื่อเสนอ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ฯ

แบบสรุปผลการคัดเลือกข้าราชการครูฯเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา


คอยติดตามว่า จะเป็นอย่างไร เพื่ออะไร
อีกวันสองวันจะนำเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษาของ สพม.มาเผยแพร่ครับ ให้ผ่าน ก.ค.ศ.ก่อน

Friday, October 22, 2010

น้ำท่วมโรงเรียนวัดโคกงาม อำเภอบ้านหมอ สพป.สระบุรี ๑ ผู้บริหารพลัดถิ่นช่วยส่งกำลังใจให้ด้วยครับ







ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล สมาชิก ช.บ.ม.ท. ถูกน้ำเหนือจัดหนัก น้ำท่วมสูง ๒ เมตร บางแห่งในบริเวณโรงเรียนเกือบ ๓ เมตร เพื่อนผู้บริหารพลัดถิ่นท่านใด ต้องการส่งกำลังใจให้พี่น้องเรา โทร.086-997-0747 ขอบพระคุณทุกท่านครับ
อธิบายภาพ นับจากภาพบนสุด
ภาพที่ 1(บนสุด) ป้ายไม้โรงเรียนแขวนในระดับสูง ๒ เมตร ลอยน้ำ(โชคดีที่น๊อตยึดไม่หลุดลอยน้ำหนีไป)
ภาพที่ 2 บริเวณหน้าเสาธง สังเกตความสูงของระดับน้ำกับความสูงของเสาธง หน้าอาคารชั้นเดียว(หลังเตี้ย)
ภาพที่ 3 สภาพโรงอาหาร ระดับน้ำสูงมาก ข้าวสาร เครื่องกรองน้ำ อุปกรณ์เครื่องครัว เสียหายหมด
ภาพ 4 อาคารชั้นเดียว ใต้ถุนโล่ง ผอ.ขจรศักดิ์ ฯ ระดมทรัพยากรได้มา กำลังทาสี ยังไม่เสร็จ(สังเกตนั่งร้าน)
ภาพที่ 5 หน้าอาคารชั้นเดียว ระดับน้ำสูงกว่าระเบียงหน้าอาคาร
ภาพที่ 6 (ล่างสุด) โอ้....สนามเด็กเล่น!!!!!
จากคำพยากรณ์ของกรมชลประทาน บอกว่า น้ำ(อาจ)จะลดอย่างเร็วภายใน 20 วัน

เพื่อนๆพี่ๆผู้บริหารสมาชิก ช.บ.ม.ท. โทร ไปให้กำลังใจพวกเราด้วยครับ

Tuesday, October 19, 2010

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรีกับสมาชิก ช.บ.ม.ท. และประธานชมรมฯ



ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี มีโอกาสถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับท่านประธานชมรมฯ(ดร.สมนึก นาห้วยทราย-คนที่ ๔ จากซ้าย)และ ผู้ประสานงานในเขตฯสพม.ต่างๆ ในนามของชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรีขอขอบคุณที่จัดงานนี้ขึ้นมาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่ายโรงเรียน พบกันใหม่ในการประชุมสัมมนาครั้งต่อไป

ภาพวิทยากรบรรยายในการสัมมนาทางวิชาการของ ช.บ.ม.ท.ปี 2553



บรรยายพิเศษโดย ร.ศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์(อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ) ท่านเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร เสียดายที่ท่านมีเวลาน้อยเนื่องจากติดภาระกิจเร่งด่วน

กิจกรรมสัมมนาของชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย



ภาพกิจกรรมการสัมมนาทางวิชาการ วิทยากรโดย ผอ.สุบรรณ ไชยศิริโชติ (ผอ.ภารกิจระบบตำแหน่งและวิทยฐานะที่2 สำนักงาน ก.ค.ศ.)ท่านได้ให้ความรู้และรับฟังปัญหาและการอภิปราย รวมถึงข้อเสนอแนะจากสมาชิกชมรมฯ และรับปากว่าจะนำข้อเสนอต่างๆเพื่อไปปรับปรุงแก้ไขเกณฑ์การย้าย,การเข้าสู่ตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษา ฯลฯ ในภาพกว้างๆของครูและบุคลากรทางการศึกษาของ สพฐ.ซึ่งเร็วๆนี้ จะดำเนินการ 3 เรื่องที่สำคัญ คือ แก้ไขปรับปรุงเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา,เกณฑ์การประเมินวิทยฐานะในเขตพัฒนาเฉพาะกิจ 3 จชต. และเกณฑ์วิทยฐานะใหม่สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์แก่สังคม

ภาพกิจกรรมการสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญฯ ของ ช.บ.ม.ท. ปี2553



ภาพกิจกรรมการสัมมนาทางวิชาการของชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๘-๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ในภาพจากซ้ายไปขวา นายสงกรานต์ จันทร์น้อย(ผู้แทนครูใน ก.ค.ศ.)และผอ.วัชรินทร์ ศรีบุรินทร์ (รักษาการ ผอ.สพม.และ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ) วิทยากรบรรยาย โดย นายสงกรานต์ ฯ ให้ความรู้เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ ก.ค.ศ. ตาม กฏหมายการศึกษา และ ผอ.วัชรินทร์ ฯ เล่าถึงเกณฑ์การย้าย ฯผู้บริหารสถานศึกษา ที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขในราวเดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๓ และเริ่มใช้ใน ปี ๒๕๕๔ เป็นอย่างช้า โดยมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางของผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยประมาณเกือบ 200 คน

ภาพการประชุมสัมมนาทางวิชาการของชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย



ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย(ช.บ.ม.ท.) สัมมนาทางวิชาการ เมื่อวันที่ ๑๘-๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ที่ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ในภาพ ท่านปราโมทย์ แก้วสุข ผู้ตรวจราชการฯ วิทยากรบรรยาย การบริหารเชิงคุณภาพว่า ปัจจุบัน นอกจากจะมีผลลัพธ์ในด้านผลสัมฤทธิ์ที่ดีแล้ว การทำให้นักเรียนและครูรวมถึงผู้เกี่ยวข้องมีความสุข คือจุดมุ่งหมายหนึ่งในการบริหารจัดการศึกษา โดยท่านเล่าถึงประสบการณ์ตนเองเป็นการเทียบเคียง

การสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญฯ ของ ช.บ.ม.ท. ปี2553



ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย(ช.บ.ม.ท.)ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 และสัมมนาทางวิชาการ เมื่อวันที่ 18-19 ตุลาคม 2553 ที่ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ในภาพจากซ้ายไปขวา ผอ.เชวงศักดิ์ ฯ(ถือกล้อง) และ ผอ.กระจ่าง ฯ ทีมงานคนสำคัญ

ประชุมสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญปี 2553 ของ ช.บ.ม.ท.


ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย สัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๕๓ วันที่ ๑๘-๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ในภาพจากซ้ายไปขวา ..
ว่าที่ ผอ.ปณิธาน ณ นคร ,ผอ.รุจภรณ์ ภูอมรกุลและผอ.สุริยา ชิณห์พงษ์ เจ้าภาพเตรียมงาน

Thursday, October 14, 2010

เริ่มชัดเจน...สพฐ.ให้ปฏิบัตหน้าที่ผอ.สพม.รักษาราชการแทน ผอ.สพม.แล้ว 40 คน

สพฐ.มีคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ผอ.สพม.รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแล้ว ตามลิงค์

รักษาราชการแทน ผอ.สพม.


หมายเหตุ โปรดอ่าน ท้ายคำสั่งให้ดีดี ....ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ลิงค์ด้านล่างนี้ สพฐ.ให้ ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.จำนวน 11 เขต กรอกข้อมูลส่ง ภายใน 20 ตุลาคม 2553

แบบกรอกข้อมูลปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.11 เขต
ข่าวที่เกี่ยวข้องเรื่องการกำหนดตำแหน่ง
การกำหนดตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายบริหารการศึกษา
หนังสือแจ้งการดาวน์โหลดการกำหนดตำแหน่งของรองฯผอ.สพป.

การที่ สพฐ.ได้กำหนดตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายบริหารการศึกษา(ผอ./รอง ผอ.สพป.)(ดูหนังสือในเวบ สพฐ.ครับลงวันที่ 14 ตุลาคม 2553)เพื่อจะได้ดำเนินการสรรหาตำแหน่งดังกล่าวแทนตำแหน่งเกษียณเดือนตุลาคม 2553 ซึ่งคงดำเนินการเร็วๆนี้ ส่วนผู้บริหารการศึกษาใน สพม.คาดว่าคงจะกำหนดตำแหน่งโดย ก.ค.ศ.ในเร็วๆนี้เช่นเดียวกันและดำเนินการสรรหาหลังจากนั้น โปรดอดใจรอและอ่านหนังสือเตรียมสอบ สำหรับท่านที่มีคุณสมบัติครบตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด

Tuesday, October 12, 2010

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี อุ่นเครื่องเสวนาครั้งที่ 4

 

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี เสวนาอุ่นเครื่อง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2553 ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต ๑ มีผู้เข้าร่วมเสวนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้เล่าสู่กันฟัง จำนวน 7 คน ในภาพ ด้านซ้าย ผอ.สันต์ธวัช ศรีคำแท้ ,ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล ด้านขวา ผอ.วุฒิไกร ทองบ่อ ,ผอ.เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์
พร้อมนี้ ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี จะเข้าประชุมสัมมนาในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ที่จัดโดยชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย(ช.บ.ม.ท.) จำนวน ๗ คน คือ
๑.ผอ.วัลลภ ศรีวงศ์จรรยา
๒.ผอ.สำราญ ไพรวรรณ
๓.ผอ.เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์
๔.ผอ.วุฒิไกร ทองบ่อ
๕.ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล
๖.ผอ.รุจภรณ์ ภูอมรกุล
๗.ผอ.สันต์ธวัช ศรีคำแท้
Posted by Picasa

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี เสวนาครั้งที่ 4

 

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี เสวนาครั้งที่ 4 เพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมสัมมนาวันที่ 18-19 ตุลาคม 2553 ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร
ในภาพ จากซ้ายไปขวา ผอ.วุฒิไกร ทองบ่อ ,ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล และ ผอ.เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์
Posted by Picasa

Wednesday, October 6, 2010

ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทยขอเชิญประชุมสัมมนา

ดร.สมนึก นาห้วยทราย ประธานชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย ขอเชิญผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นทุกท่าน ประชุมสัมมนาและประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๕๓ เป็นครั้งแรก

วันที่ ๑๘-๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

คลิ๊กดูรายละเอียดตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ พร้อม Download ใบสมัคร ได้เลย
ลิงค์ด้านล่างประกอบด้วย
๑.หนังสือเชิญประชุมสัมมนา
๒.โครงการประชุมสัมมนา
๓.กำหนดการสัมมนา-วิทยากรอภิปราย
๔.ใบตอบรับเข้าประชุมสัมมนา
๕.แผนที่ไปโรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ


Download เอกสารทุกอย่างได้ที่นี่(คลิ๊ก)

หรือท่านอาจติดต่อประสาน การเข้าอบรมสัมมนาได้ที่ ผอ.อ้อย ฯ โทร.080 431 9054
ขอบคุณครับ



แล้วพบกันครับ
จากชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี

Tuesday, October 5, 2010

รายชื่อผู้ประสานงานประจำ สพม.และเสนอขอเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายฯ

ดูรายชื่อ สมาชิกชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทยที่ขอเสนอเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย

รายชื่อคณะกรรมการ

มีบาง สพม.ยังไม่มีรายชื่อนะครับ เข้าใจว่า ไม่มีเครือข่ายในแถบนั้น หากใครรู้จักพี่ๆเพื่อนๆน้องๆแถบนั้นก็ช่วยกันกระจายข่าวด้วยครับ เพื่อช่วยเหลือกันและกัน

Monday, October 4, 2010

ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย จัดประชุมสัมมนา ๑๘-๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓

โครงการสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553
สมาชิกชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย
1. หลักการและเหตุผล
การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมโลก ทำให้เกิดความต้องการผลผลิตทางการศึกษาที่สามารถตอบสนองสังคมไทยยุคใหม่ ซึ่งสถาบันการศึกษาทุกระดับจะต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารการศึกษาซึ่งเป็นผู้นำในองค์กรที่จะต้องบริหารจัดการศึกษาให้บรรลุตามความต้องการของผู้เรียนและนโยบายของต้นสังกัดอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ในระยะสิบปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาของไทยอย่างมากทั้งด้านโครงสร้างการบริหารและกระบวนการจัดการเรียนรู้ แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการของสังคมไทยได้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม และมีคุณภาพ ทั้งๆ ที่รัฐได้จัดสรรงบประมาณเพื่อการศึกษาในสัดส่วนที่ไม่น้อยกว่าประเทศอื่น จึงส่งผลให้เกิดกระแสการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองและการปรับปรุงกฎหมายแม่บททางการศึกษาหลายฉบับ ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อการบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานที่สำคัญคือมีการแยกเขตพื้นที่การศึกษาเป็นเขตพื้นที่ระดับประถมศึกษาและเขตพื้นที่ระดับมัธยมศึกษา โดยคาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลต่อการเพิ่มคุณภาพของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ผู้บริหารสถานศึกษาที่จะจัดการศึกษาให้มีคุณภาพจึงต้องก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลง สามารถสร้างวิสัยทัศน์ของตนเอง ของหน่วยงาน และมีเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพที่ดี ดังนั้น จึงทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศที่เคยปฏิบัติงานในโรงเรียนมัธยมศึกษาร่วมกันจัดตั้งชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทยขึ้นมา เพื่อเป็นองค์กรเครือข่ายสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการบริหารการศึกษาและเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนส่งเสริมการยกระดับคุณภาพ การพัฒนาวิชาชีพของมวลสมาชิก
เพื่อให้สมาชิกได้รับการพัฒนาตามที่กล่าวถึงข้างต้น ชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นจึงจัดทำโครงการสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 นี้ขึ้น
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อให้สมาชิกชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นได้รับรู้แนวทางการจัดการศึกษายุคใหม่
2.2 เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานในวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาและการพัฒนาตนเองในตำแหน่ง/วิทยฐานะของผู้บริหารสถานศึกษา
2.3 เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรเครือข่ายที่สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการบริหารการศึกษา
3. ผู้รับผิดชอบ
คณะกรรมการบริหารชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย
4. ผู้เข้าร่วมสัมมนา
สมาชิกชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย จากเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทั่วประเทศ 42 เขต จำนวน 420 คน
5. กิจกรรมสำคัญ
จัดสัมมนาวิชาการในวันที่ 18 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2553
จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ในวันที่ 19 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2553
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
วันที่ 18-19 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2553 รวม 2 วัน
7. การลงทะเบียน
เก็บเงินค่าลงทะเบียนจากสมาชิก คนละ 1,500 บาท เพื่อใช้จ่าย ดังนี้
-คอฟฟี่เบรก 4 มื้อ อาหารกลางวัน 2 มื้อ อาหารเย็น 1 มื้อ
-เอกสารประกอบการสัมมนา 1 ชุด
-ค่าตอบแทนวิทยากร
หมายเหตุ ถ้าต้องการที่พักที่โรงแรมริเวอร์ไซต์ ต้องจองและจ่ายเพิ่มคืนละ500 บาท/คน
8. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
8.1 ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ/สพฐ./สพม./สพป. รับรู้ เข้าใจในบทบาท วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ของชมรมฯ และสมาชิกชมรมฯ
8.2 กระทรวงศึกษาธิการ/สพฐ./สพม./สพป. มีผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน
8.3 สถานศึกษามีผลการปฏิบัติงานที่มีคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพ
9. กำหนดการ
การสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553
ของชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย
ระหว่างวันที่ 18 –19 ตุลาคม 2553
ณ โรงแรมริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ
-------------------------------------------
วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2553
เวลา 10.00 – 13.00 น. รายงานตัวและลงทะเบียนผู้เข้าประชุมสัมมนาทางวิชาการ
เวลา 13.00 – 14.30 น. พิธีเปิดและบรรยายพิเศษ โดย ฯพณฯ ชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ.
เวลา 15.00 – 16.30 น. การบรรยายหัวข้อ ปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2 ปฏิรูปใคร? อย่างไร?
โดย ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการ กพฐ.
เวลา 18.00 – 21.30 น. ร่วมสังสรรค์ สานฝัน สมาชิก ช.บ.ม.ท.ทั่วทุกภูมิภาค

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2553
เวลา 09.00 - 10.30 น. การบรรยาย หัวข้อ ผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษายุคใหม่
โดย นายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการ กพฐ.
เวลา 10.30 - 12.00 น. สัมมนาหัวข้อวิธีการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษายุคใหม่ โดย ผอ.สุบรรณ ไชยศิริโชติ ผอ.ภารกิจระบบตำแหน่งและวิทยฐานะที่ 2 และนายสงกรานต์ จันทร์น้อย ตัวแทนครู ใน ก.ค.ศ.
เวลา 12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
เวลา 13.00 - 16.30 น. การประชุมใหญ่สามัญประจำปี
โดย ประธานชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่น(ดร.สมนึก นาห้วยทราย)

----------------------------------------------------
หมายเหตุ ตารางนี้อาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

ใบตอบรับเข้าประชุมสัมมนาทางวิชาการและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553
วันที่ 18-19 ตุลาคม 2553
**************************************
1.ชื่อ นามสกุล อายุ ปี
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง โรงเรียน
เลขที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด
โทรศัพท์..............................E-mail ...................................
2.ที่อยู่ที่ติดต่อได้ เลขที่ หมู่ที่ ตำบล อำเภอ...............................
จังหวัด รหัสไปรษณีย์ มือถือ............................................
3.มีความประสงค์เข้าร่วมประชุมสัมมนาและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 กับชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย

4. ขอแจ้งการลงทะเบียนดังนี้
ลงทะเบียนทาง e –mail ไปที่ intra.1@ hotmail.com (ผอ.ประสิทธิ์ ยิ่งสมัคร เหรัญญิกชมรมฯ)
และได้ส่งเงินค่าลงทะเบียน 1,500 บาท ไปที่ บัญชีธนาคารธนาคารกรุงไทย
สาขาบิ๊กซีหางดง จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อบัญชี ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย
เลขที่บัญชี 787-0-07801-8 โทรศัพท์แจ้งการโอนเงินที่เหรัญญิก หมายเลข 081-881-9501
ลงทะเบียนที่ห้องประชุมสัมมนาในวันที่ 18 ตุลาคม 2553
5. ขอแจ้งความประสงค์ในการเข้าพักนอนในโรงแรมริเวอร์ไซต์ กรุงเทพฯ คืนวันที่............. ต.ค. 2553

ลงชื่อ......................
( )
ตำแหน่ง
( กรุณาตอบรับภายใน วันที่ 15 ตุลาคม 2553 )

............................................................................................
ท่านสมาชิกชมรมฯสามารถ Download ใบสมัคร ในลิงค์นี้ได้ครับ

Download ใบสมัคร(คลิ๊ก)

วิธีการ Download ใบสมัครเข้าประชุมสัมมนา
๑.คลิ๊กที่ลิงค์ ใบสมัคร ๑ ครั้ง (ลิงค์ใบสมัครด้านบนนี้)
๒.เมื่อเอกสารในลิงค์ปรากฏ จะพบตัวโครงการ ฯ กำหนดการสัมมนา และใบสมัครอยู่ท้ายสุด
๓.คลิ๊กที่เมนูคำว่า File ด้านมุมบน ซ้ายมือ จะปรากฏแถบยาวลงมา หาคำว่า Download as แล้วจึงคลิ๊กแถบ Download as Text
๔.จะปรากฏเป็นเอกสารหน้าใหม่ ให้ท่าน save as เอกสารนี้ท่านสามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลงได้ เหมือนเอกสารปกติ

อีกวิธีหนึ่งคือ เมื่อท่านคลิ๊กลิงค์ใบสมัคร จนเอกสารเปิดออกมาให้ท่าน copy แล้วไปวางในเอกสารใหม่ จัดรูปแบบให้เหมาะสมสวยงาม
หากท่านประสบปัญหาการ Download เอกสาร กรุณาเมล์ไปที่ rony1977@live.com

Friday, October 1, 2010

ด่วน...จากชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย-สำคัญมาก


ประชาสัมพันธ์ ด่วน...จากชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย(ช.บ.ม.ท.)

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 เป็นครั้งแรก

ในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร

มีจุดประสงค์เพื่อพบปะและสัมมนาเชิงวิชาการ โดย ดร.สมนึก นาห้วยทราย ประธานชมรมและคณะสมาชิก

เวบไซท์ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย

สมาชิกชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นโปรดแจ้งชื่อ แสดงความประสงค์ และซักถามรายละเอียดได้ที่
ผอ.อ้อย ฯ โทร.080 431 9054


คลิ๊กดู แผนที่โรงแรมริเวอร์ไซด์

รายละเอียดอื่นๆ เช่น กำหนดการสัมมนา หัวข้อและวิทยากร ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรีจะได้เสนอในลำดับต่อไป

Wednesday, September 29, 2010

ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม. งานงอก...สพร.ให้ส่งสำเนาเลื่อนขั้นเงินเดือน

ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.งานงอก สพร.ให้ส่งสำเนาคำสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งที่ ๑( ๑ เมษายน ๒๕๕๓) ภายในวันนี้ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓
เพื่อประกอบกการเลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งที่ ๒ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๓) ด่วนที่สุด ตามลิงค์ด้านล่างครับ


ให้ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.ส่งคำสั่งสำเนาการเลื่อนขั้นเงินเดือนครั้งที่๑(๑เมษายน๒๕๕๓)ให้ สพร.ด่วน....


ภายในวันนี้ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓

มาลงให้ดูอีกครั้งสำหรับผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่น ออกข่าววันนี้


จัดไป (ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นอ่านดูท้ายๆครับ)


นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังพิจารณาเรื่อง การปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารงานบุคคล ในการโยกย้ายและสรรหา แต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในสังกัด สพฐ. ตามที่ ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ในฐานะประธานได้เสนอต่อที่ประชุม ว่า หลักเกณฑ์ที่เสนอนั้นมีลักษณะคล้ายหลักเกณฑ์เดิม แต่ สพฐ.จะจัดระบบการโยกย้ายให้เป็นธรรมมากขึ้น เช่น มีการจัดลำดับการโยกย้ายของผู้บริหาร โดยพิจารณาขนาดของโรงเรียน ปริมาณงานที่รับผิดชอบและจะไม่ให้เกิดการโยกย้ายแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ หลักเกณฑ์ใหม่ยังเปิดทางให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนประถม ที่มีประสบการณ์การทำงานมากและสนใจอยากจะเข้ามาเป็นผู้บริหารสถานศึกษาใน โรงเรียนระดับมัธยม หรือกลุ่มมัธยมพลัดถิ่น ซึ่งมีอยู่จำนวนหลายร้อยคน คือ เคยมีประสบการณ์ทำงานในโรงเรียนมัธยมมาก่อนและสนใจอยากจะสอบคัดเลือกเพื่อ เป็นผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนมัธยมก็จะไม่ปิดกั้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

เริ่มชัดเจนการสรรหาผอ.สพม./ก.ค.ศ.แนะควรมีอัตรากำลังการตรวจสอบภายใน ใน สพม.

ตามนั้น
นายชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ความชัดเจนในส่วนของหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การ มัธยมศึกษา (สพม.) 42 เขต และโครงสร้าง สพม.นั้นจะแบ่งสัดส่วนการดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกเปิดรับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา (สพป.) ที่มีประสบการณ์การทำงานมาก่อนและสมัครใจจะสมัครเพื่อคัดเลือกเป็น ผอ.สพม. ส่วนที่สองเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกทั่วไป ซึ่งสัดส่วนแต่ละประเภทจะเป็นเช่นไรต้องให้คณะกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นผู้พิจารณาและกำหนด แต่ต้องดำเนินการให้เสร็จใน 180 วัน ซึ่งอยู่ในระยะเวลาการทำหน้าที่ของคณะอนุ ก.ค.ศ.วิสามัญ เพื่อทำหน้าที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่มัธยมศึกษา แต่เบื้องต้นที่ประชุม ก.ค.ศ.ได้พิจารณาร่างหลักเกณฑ์การคัดเลือกแล้ว ในส่วนของอัตรากำลังคนในโครงงสร้างที่เสนอไปนั้น ก.ค.ศ.ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดูรายละเอียดและเสนอแนะว่าควรเพิ่มบางประเด็น เช่น ระบบการตรวจสอบภายในควรมีอยู่ในโครงสร้างของ สพม.หรือไม่ จึงมอบสำนักงานพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) ของ สพฐ.ไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากนั้นให้นำเสนอสู่ที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พิจารณา

นายชินภัทร กล่าวด้วยว่า ก.ค.ศ.ไม่ได้ตีกลับร่างมา แต่ขอให้พิจารณาเพิ่มเติมในรายละเอียดบางส่วน โดยเรื่องของอัตรากำลังใน สพม.และ สพป. ที่เสนอไปนั้น สำหรับ สพม.กทม.เขต 1และ 2 กำหนดจำนวนบุคลากรตามโครงสร้างไว้ที่ 62 คน สพป.ทั่วประเทศ มีจำนวน 62 คน แต่จำนวนอาจจะมากหรือน้อยต่างกันขึ้นอยู่ปริมาณงานยกเว้น สพป.กทม.จำนวน 39 คนเพราะ กทม.มีโรงเรียนประถมน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ในแต่ละเขตพื้นที่นั้นให้ สพร.ไปศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยว่าควรที่จะมีบุคลากรที่มีวิทยฐานะชำนาญการ พิเศษจำนวนเท่าใด และดูว่ามีแนวทางที่จะทำได้หรือไม่ หรือถ้าจะให้มีถึงวิทยฐานะเชี่ยวชาญใน สพท.ด้วยจะได้หรือไม่



ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com

Tuesday, September 28, 2010

ด่วน...จากท่านเลขาฯสพฐ. ไฟเขียวผู้อำนวยการมัธยมพลัดถิ่นกลับคืนการมัธยม


ข่าวดี สำหรับชาวผอ.มัธยมพลัดถิ่น ตุลาคม ๒๕๕๓ นี้ เริ่มชัดเจน ...

ชิงเก้าอี้ สพม.-สถานศึกษา/เร่งร่างหลักเกณฑ์ชง ก.ค.ศ.อนุมัติทัน ต.ค.53

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.53 นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)วิสามัญ ที่ทำหน้าที่แทน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์การโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ทั้งในส่วนของประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จากนั้นจะนำหลักเกณฑ์ดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณาและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ทาง ก.ค.ศ.กำหนดต่อไป ทั้งนี้หลักเกณฑ์ดังกล่าวคงจะคล้ายคลึงกับที่ผ่านมา แต่คงจะจัดทำให้เป็นระบบที่ก่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น และลำดับของการโยกย้ายจะต้องไม่ก้าวกระโดดจนเกินไป ทั้งนี้การพิจารณาโยกย้ายจะดำเนินการให้ทันเดือน ต.ค.นี้ เพื่อทดแทนผู้บริหารสถานศึกษา ที่เกษียณอายุราชการ

“หลักเกณฑ์ดังกล่าวอาจ ต้องมีการกำหนดเกณฑ์ เพื่อเปิดทางให้กับผู้ที่เป็นผู้บริหารในโรงเรียนประถมศึกษาที่มีประสบการณ์ และสนใจจะย้ายมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาด้วย โดยเฉพาะกลุ่มมัธยมพลัดถิ่น ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นบุคลากรของโรงเรียนมัธยมศึกษา เช่น รองผู้อำนวยการโรงเรียน และต่อมาได้ไปทำการสอบคัดเลือกและได้เป็นผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา ซึ่งบุคลากรในกลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สนใจอยากจะกลับมาอยู่โรงเรียนมัธยมศึกษา ดังนั้นจึงคิดว่าไม่น่ามีอะไรที่จะเป็นจุดที่จะต้องไปปิดกั้นบุคลากรในกลุ่ม นี้”

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวและว่า ส่วนความคืบหน้าเรื่องการคัดเลือกแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) นั้น อาจจะมี 2 แนวทางคือ

1.ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ที่มีประสบการณ์ในการบริหารมัธยมศึกษามาก่อน และสนใจจะมาเป็น ผู้อำนวยการ สพม. แจ้งความจำนงย้ายมาเป็น ผู้อำนวยการ สพม. และ

2.เปิดสอบคัดเลือกทั่วไป

สำหรับทั้ง 2 แนวทางนี้จะต้องมีการแบ่งสัดส่วนว่าแต่ละแนวทางจะมีจำนวนเท่าใด จากนั้นจะเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาเห็นชอบต่อไป


ที่มา - สยามรัฐออนไลน์
http://www.siamrath.co.th/?q=node/83945

Monday, September 27, 2010

ด่วน...กรอบอัตรากำลัง สพม.และ สพป.ใหม่ สดๆจากการประชุม ก.ค.ศ.๒๘กันยายน ๒๕๕๓


กรอบอัตรากำลัง ที่ชงให้ ก.ค.ศ. พิจารณาในวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓

การกำหนดอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

กรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บุคลากรทางการศึกษาอื่น มาตรา ๓๘ ค (๑) และ (๒) ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ.กำหนดไว้เดิม โดยตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเดิมมากำหนด

กรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ๔๒ เขต ได้แก่ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขตละ ๑ ตำแหน่ง รวม ๔๒ ตำแหน่ง ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขตละ ๓ ตำแหน่ง รวม ๑๒๖ ตำแหน่ง และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ รวม ๖๙๖ ตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยม เขต ๑-๒ (กรุงเทพมหานคร) จำนวน ๒ เขตๆ ละ ๔๘ ตำแหน่ง รวม ๙๖ ตำแหน่ง และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓-๔๒ จำนวน ๔๐ เขตๆ ละ ๑๕ ตำแหน่ง รวม ๖๐๐ ตำแหน่ง.

นวรัตน์ รามสูต
นงศิลินี โมสิกะ
สรุป/รายงาน

กรอบอัตรากำลังของบุคคลตามมาตรา ๓๘ค(๒)ของ สพม.ที่ ก.ค.ศ.ชงไว้

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (กคศ.) มีข้อเสนอกรอบอัตรากำลังกคศ. ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2) ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา มีการนำเสนอกรอบอัตรากำลังดังนี้

1.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) คือ

* สพม.กรุงเทพฯ เขต 1 และ เขต 2 ให้มีอัตรากำลังเขตละ 62 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 14 ตำแหน่ง
* สพม.เขต 3 ถึง เขต 42 ให้มีอัตรากำลังเขตละ39 ตำแหน่ง มีตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ จำนวน 13 ตำแหน่ง ให้คงกรอบอัตรากำลังนี้เป็นเวลา 1 ปี และให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เสนอขอทบทวนกรอบอัตรากำลังตามภาระงานต่อไป

2.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) คือ สพป.กรุงเทพมหานคร ให้มีอัตรากำลัง 62 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษได้ 14 ตำแหน่ง ให้สพฐ. ปรับเกลี่ยอัตรากำลังในสพป.ได้ โดยการตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนไม่เกินร้อยละ 30 ไปกำหนดในสพม.และเสนอขอทบทวนกรอบอัตรากำลังของสพป. ตามภาระงานที่เปลี่ยนแปลงไปตามกฎหมายพร้อมทั้งเสนอแผนระยะ 3 ปี เพื่อปรับลดอัตรากำลังบุคลากรในสพป. ร้อยละ 30 ในระยะเวลา 1 ปี

เนื่องจากกรอบดังกล่าวยังไม่เป็นที่่พอใจของบุคคลตามมาตรา ๓๘ค(๒)จึงต้องรอความชัดเจนในการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งต่อไป และน่าจะได้กรอบอัตรากำลังที่สมบูรณ์ที่สุด

Friday, September 24, 2010

ของแถม...ความเคลื่อนไหวของกลุ่มศึกษานิเทศก์การมัธยม-(เป็นประเด็น..)

มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มศึกษานิเทศก์การมัธยมศึกษาด้วยครับ ประเด็นสำคัญๆ เช่น มีเส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพที่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ ยาวไป ยาวไป...โปรดอย่ากระพริบตา ... ตามลิงค์นี้ไปเลย

โครงสร้างและภารกิจของศึกษานิเทศก์

ข่าวคราวความคืบหน้า ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี จะได้ติดตามตอนต่อไป

Wednesday, September 22, 2010

ด่วน....ออกมาแล้วแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษา สพม.

ออกมาแล้ว ร้อนๆจ้า แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูและผู้บริหาร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ใครที่ไม่ได้เขียนย้าย ๑-๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาหมดสิทธิ์ ไม่รับใบย้ายที่เขียนเพิ่มครับ เจ้านาย รอสิงหาคม ๒๕๕๔ เท่านั้น ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นที่ไม่ได้เขียนย้ายช่วงดังกล่าว งานงอกแล้ว จัดให้ตามลิงค์นี้ไปเลย
แนวปฏิบัติเกี่ยวกับการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งครูและผู้บริหาร สังกัด สพม.

เร็วๆนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายครับ โปรดจับตา

Tuesday, September 21, 2010

ข่าวคราวเล็กๆดีๆจากชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี

เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี กลุ่มย่อย ประมาณ ๕-๖ คน ได้จัดพบปะเสวนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าสู่กันฟัง ณ บ้านท่าน ส.ส.องอาจ วงษ์ประยูร ดังที่ชมรมฯได้นำเสนอในบล๊อกนี้ไปแล้วนั้น และในวันนี้ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๓ ท่าน ส.ส.ได้โทรศัพท์แจ้งข่าวว่า ได้เรียนถามท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถึงความคืบหน้าของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแยกประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ท่านรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ตอบว่า จะช่วยให้ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นทุกคน ได้กลับการมัธยมอย่างแน่นอน ไม่ได้ทอดทิ้งพวกเราเหมือนที่ผู้บริหารบางคนให้ข่าวก่อนหน้านั้นแต่อย่างใด
ความคืบหน้าต่อไป โปรดติดตาม...

รูปแบบเอกสารของ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ดูท้ายๆนะครับมีแบบกรอกข้อมูลผู้บริหารที่ขอย้าย

จัดไป ตามลิงค์

รูปแบบเอกสารและข้อมูลของผู้บริหารสถานศึกษามัธยมศึกษาที่ขอย้าย

หนังสือแจ้ง สพม.ที่สพฐ.ให้แจ้งตำแหน่งว่างและตำแหน่งที่ชะลอและสงวนไว้

หนังสือแจ้งสพป.ที่สพฐ.ให้แจ้งตำแหน่งว่างและตำแหน่งที่ชะลอและสงวนไว้

บันทึกข้อความแจ้งมติที่ประชุมอ.ก.ค.ศ.วิสามัญ

ท่านผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นที่เขียนย้ายช่วง 1-15 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมาโปรดอย่ากระพริบตา...

ครูเฮ...รับ 2 เด้ง เงินเดือนขึ้นร้อยละ 8 และร้อยละ 5 เมษายน 2554

ตามนั้น.....
ครูกว่า 4 แสนคนเฮรับ 2 เด้ง ครม.ไฟเขียวปรับฐานเงินเดือนขึ้น 8 % เม.ย.ปี 54 เตรียมรับเพิ่มอีก 5 %
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 21 กันยายนว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... และการปรับระบบบริหารงานบุคคลข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยให้เสนอต่อคณะกรรมการประสานงานฝ่ายนิติบัญญัติ และสภาผู้แทนราษฎรตามลำดับต่อไป ซึ่งสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ศธ.ได้เสนอให้มีการแก้ไขจากพ.ร.บ.เงินเดือนฯ พ.ศ.2547 ที่เป็นฉบับปัจจุบัน เนื่องจากได้มีการปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการพลเรือนใหม่หลังจากปรับ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 โดยมีการปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการพลเรือนใหม่ถึง 2 ครั้ง ส่งผลให้เงินเดือน เงินประจำตำแหน่งของข้าราชการประเภทอื่นตลอดจนบัญชีเงินเดือนขั้นสูงและขั้น ต่ำของข้าราชการประเภทอื่นเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จึงทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำกับอัตราเงินเดือนและโครงสร้างเงินเดือนของข้า ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ฉะนั้นจึงต้องมีการแก้ไขพ.ร.บ.เงินเดือน เงินวิทยฐานะฯ ใหม่เพื่อให้เกิดให้มีความเหมาะสม เป็นธรรม และสอดคล้องกับข้าราชการประเภทอื่น ประกอบกับปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้นด้วย
“ร่างพ.ร.บ.เงินเดือนฯ ดังกล่าว จะส่งผลให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 432,942 คน ได้มีโอกาสปรับโครงสร้างเงินเดือนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8 ของบัญชีโครงสร้างเงินเดือนเดิม โดยในส่วนของเงินเดือน คศ.5 (ครูและบุคลากรทางการศึกษา 5 ) จะได้รับสูงสุดถึง 66,480 บาท เทียบเท่ากับสายงานแพทย์ สายงานนักกฎหมายและกฤษฎีกา ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน เพราะที่ผ่านมาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจะได้รับเงินเดือนต่ำกว่า จึงถือเป็นการยกระดับอัตราเงินเดือนขั้นสูง เทียบเท่าขั้นสูงสุดของสายงานแพทย์ สายงานนักกฎหมายและกฤษฎีกา โดยข้าราชการครูครูและบุคลากรตั้งแต่ครูปฏิบัติการจนถึงเชี่ยวชาญพิเศษ จะได้ปรับโครงสร้างเงินเดือนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคนละ 2000-3000 บาทโดยอัตโนมัติเมื่อร่างพ.ร.บ.เงินเดือนฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว ซึ่งการปรับฐานโครงสร้างเงินเดือนครั้งนี้ จะทำให้ใช้งบประมาณเพิ่มเติม 2,000 ล้านบาท” นายชินวรณ์ กล่าว
รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวต่อไปว่า ครม.ยังได้มีมติเห็นชอบให้ศธ.ดำเนินการมาตรการระยะปานกลางและระยะยาว โดยระยะปานกลางให้จัดระบบค่าตอบแทน เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อ ให้สอดคล้องกับระบบการศึกษาและยุทธศาสตร์การศึกษาของประเทศและให้เทียบเคียง กับระยะสากล ส่วนในระยะยาว ให้ศึกษาค่าตอบแทนของข้าราชการทุกประเภททั้งระบบในกระทรวงศึกษาฯ เป็นภาพรวมต่อไป ซึ่งตนได้ชี้แจง ครม.ว่าได้มีการตั้งคณะทำงาน มีตัวแทนจากคณะกรรมการข้าราชพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา(ก.พ.อ.).และคณะ กรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ซึ่งจะศึกษาเรื่องการพัฒนาค่าตอบแทนทั้งระบบต่อไป ทั้งนี้ตนตั้งใจจะผลักดันร่างพ.ร.บ.เงินเดือนฯ ให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรทันสมัยประชุมนี้ เพื่อจะได้ประกาศใช้เป็นกฎหมายก่อนเดือนเมษายน 2554 ทั้งนี้ เพื่อจะได้ใช้เป็นฐานโครงสร้างเงินเดือนใหม่ ซึ่งจะได้มีการปรับฐานโครงสร้างเงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 5 ในเดือนเมษายน 2554 ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเพิ่มเงินเดือนให้กับข้าราชการทุกประเภทร้อยละ 5 ในเดือนเมษายน 2554
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการเงินเดือนแห่งชาติ(กงช.) เคยตั้งข้อสังเกตการเพิ่มเงินเดือน คศ.5 ถึง 66,480 จะทำให้ลักลั่นกับข้าราชการประเภทอื่น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ความจริง กงช.และหน่วยงานอื่นมีความกังวล จึงเห็นด้วยที่จะให้ปรับบัญชีเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา ตลอดจนข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาโดยให้เทียบเคียงกับค่าตอนแทนข้า ราชการพลเรือนสามัญ เพียงแต่ยังไม่เห็นด้วยที่จะให้เงินเดือนขั้นสูงสุดของคศ.5 อยู่ที่ 66,480 บาท แต่ตนได้ชี้แจงต่อ ครม.ว่าครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นสายงานพิเศษ การจะได้ คศ.5 จะต้องทำผลงานทางวิชาการด้วยตนเอง ซึ่งจากครูกว่า 4 แสนคน ขณะนี้มีผู้ที่สามารถทำผลงานทางวิชาการได้แค่ 2 คนเท่านั้น แต่การที่ ครม.เห็นชอบ จะเป็นแรงจูงใจให้คนเก่งและคนดีมาสมัครเป็นครูเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถมีเงินเดือนสูงขึ้นเทียบเท่าสายงานแพทย์ สายงานนักกฎหมายและกฤษฎีกา ซึ่งตนคาดว่าเมื่อร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ก็จะได้รับความเห็นชอบด้วย

นายชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ที่แนบท้ายร่างพ.ร.บ.เงินเดือนฯ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ดังนี้

ครูผู้ช่วย ขั้นต่ำชั่วคราว 7,940 บาท ขั้นต่ำ 8,700 บาท ขั้นสูง 16,840 บาท,
คศ.1 ขั้นต่ำชั่วคราว 8,130 บาท ขั้นต่ำ 11,930 บาท ขั้นสูง 29,700 บาท จากอัตราบัญชีเดิมในปัจจุบัน ครูผู้ช่วยขั้นต่ำชั่วคราว 7,940 บาท ขั้นต่ำ 11,930 บาท ขึ้นสูง 27,500 บาท,
ระดับ คศ. 2 (ชำนาญการ) ขั้นต่ำชั่วคราว 12,530 บาท ขั้นต่ำ 15,410 บาท ขั้นสูง 36,020 บาท จากเดิม ขั้นต่ำชั่วคราว 12,530 บาท ขั้นต่ำ 15,410 บาท ขั้นสูง 33,540 บาท ,
ระดับ คศ. 3 (ชำนาญการพิเศษ) ขั้นต่ำชั่วคราว 12,530 บาท ขั้นต่ำ 18,910 บาท ขั้นสูง 50,550 บาท จากเดิมขั้นต่ำชั่วคราว 12,530 บาท ขั้นต่ำ 18,910 บาท ขั้นสูง 57,450บาท ,
ระดับ คศ.4 (เชี่ยวชาญ) เริ่มที่ขั้นต่ำ 23,230 บาท ขั้นสูง 59,770 บาท จากเดิมขั้นต่ำ 23,230 บาท ขั้นสูง 50,550บาท
และระดับคศ.5 (เชี่ยวชาญพิเศษ) ขั้นต่ำ 28,550 บาท ขั้นสูง 66,480 บาท จากเดิมขั้นต่ำ 28,550 บาท ขั้นสูง 64,340 บาท

รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวด้วยว่า ส่วนบัญชีอัตราเงินวิทยฐานะสำหรับตำแหน่งครู ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาและครูที่เรียกชื่ออย่างอื่นตามที่ก.ค.ศ.กำหนด ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ มีดังนี้

วิทยฐานะชำนาญการ 3,500 บาท
ชำนาญการพิเศษ 5,600 บาท
เชี่ยวชาญ 9,900 บาท
เชี่ยวชาญพิเศษ 15,600 บาท

จากอัตราเดิมในปัจจุบันวิทยฐานะชำนาญการ 3,500 บาท
ชำนาญการพิเศษ 5,600 บาท
เชี่ยชาญ 9,900 บาท
และเชี่ยวชาญพิเศษ 13,000 บาท

ส่วนอัตราเงินเดือนของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มีดังนี้ อาจารย์ ขั้นปฏิบัติการ ปริญญาตรี 7,940 บาท ปริญญาโท 9,700 บาท ปริญญาเอก 13,110 บาท ขั้นสูง 36,020 บาท, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ขั้นสูง 50,550 บาท ,รองศาสตราจารย์ขั้นสูง 59,770 บาท, ศาสตราจารย์ ระดับ 9-10 64,340 บาท และระดับ 11 66,480 บาท

ที่มา - มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1285056122&grpid=00&catid=

ยาวไป ยาวไป ...

Monday, September 20, 2010

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรีนัดพบปะเสวนาครั้งที่ 3

 
Posted by Picasa

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี นัดพบปะเสวนา เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2553 ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เล่าสู่กันฟัง มีผู้เข้าเสวนาจำนวน 6 คน ในภาพจากซ้ายไปขวา ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล ,ผอ.สันต์ธวัช ศรีคำแท้ ,ส.ส.องอาจ วงษ์ประยูร ,ผอ.เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์ ,และผอ.สุชาติ สุนทรประสิทธิ์

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี นัดพบปะเสวนาครั้งที่ 3

 
Posted by Picasa

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี นัดพบปะเสวนากลุ่มย่อย ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2553 ในภาพจากซ้ายไปขวา ผอ.อากาศ โพธิ์อ่อง,ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล,ส.ส.องอาจ วงษ์ประยูร,ผอ.เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์,ผอ.สุชาติ สุนทรประสิทธิ์

Friday, September 17, 2010

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรีประชุมพบปะเสวนาครั้งที่ 2


ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี จัดประชุมพบปะเสวนา เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2553 ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สระบุรี เพื่อพูดคุย สื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องการย้าย สรุปว่า มอบให้ผอ.วัลลภ ศรีวงศ์จรรยา(เขต 1)และผอ.รุจภรณ์ ภูอมรกุล(เขต 2)เป็นตัวแทนคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายที่ สพม.เขต 4
มีผู้เข้าพบปะเสวนา จำนวน 10 ท่าน คือ
๑.ผอ.วัลลภ ศรีวงศ์จรรยา
๒.ผอ.สำราญ ไพรวรรณ์
๓.ผอ.ชวนทรัพย์ ศรีราชา
๔.ผอ.พิสิทธิ์ จิตต์ผูก
๕.ผอ.เริงฤทธิ์ ผดุงพันธ์
๖.ผอ.สันต์ธวัช ศรีคำแท้
๗.ผอ.ขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล
๘.ผอ.วุฒิไกร ทองบ่อ
๙.ผอ.อากาศ โพธิ์อ่อง
๑๐ ผอ.พงษ์ศักดิ์ หนูทรัพย์

------------------------ขอขอบพระคุณ ผอ.ธนิต มูลสภา ผอ.โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ที่อนุเคราะห์ห้องประชุมและเครื่องดื่มครับ..........

Wednesday, September 15, 2010

ด่วน...ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการแบ่งส่วนราชการภายใน

มาแล้ว ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ.2553 ลงวันที่ 13 กันยายน 2553 มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว สพม.มีทั้งหมด 6 กลุ่ม จัดไปตามลิงค์


ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พ.ศ.2553

ราชกิจจานุเบกษาประกาศ ศธ.แบ่งส่วนฯการประถมศึกษา

ราชกิจจานุเบกษาประกาศ ศธ.แบ่งส่วนฯการมัธยมศึกษา

มีผลวันที่ 14 กันยายน 2553 อาจเป็นข้อสอบ การสรรหา ผอ./รองฯ สพม.

Tuesday, September 14, 2010

เอกสารการมัธยม รวมมิตรและรายละเอียด โครงการของ สมป. ๘ กันยายน ๒๕๕๓

มีโครงการของสำนักงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย(สมป.)ด้วยครับ ดำเนินการแล้วเมื่อ ๘ กันยายน ๒๕๕๓ คลิ๊กตามลิงค์ไปเลย อาจช้าหน่อยเพราะไฟล์ใหญ่มาก


รวมเอกสารของการมัธยมศึกษาและโครงการของ สมป.

ปฏิบัติหน้าที่ผอ.สพม. ง า น เ ข้ า .......ไม่มีใบประกอบวิชาชีพฯ

หลายคนทีเดียว ไม่มีใบประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา สพฐ.ชงเรื่องให้ผิด...งามไส้

ครูโวย สพฐ.ตั้งผู้ไร้ใบประกอบวิชาชีพผู้บริหาร นั่ง ผอ.สพม. “องค์กร” โยน สพฐ.ชงเรื่องมาผิด รับพลาดเองอนุมัติให้ พร้อมถอนการอนุญาต ฝากส่งเรื่องมาใหม่ แยกชัดคุณสมบัติครบ ไม่ครบ
วันนี้ (14 ก.ย.) นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ชมรมองค์กรเครือข่ายวิชาชีพครู 4 ภูมิภาค ได้ยื่นหนังสือทักท้วงให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาตรวจสอบ กรณีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่งตั้งผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ว่า เป็นการขัดต่อ พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 นั้น ตนได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว พบว่า สพฐ.ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดเรื่อง ขออนุญาตให้ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯโดยปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.จำนวน 41 ราย ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯ หรือจนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานตำแหน่งมาแทน และรองเลขาธิการคุรุสภาก็ได้ออกหนังสืออนุญาตตามที่เสนอขอมาแล้ว แต่เมื่อมีผู้ท้วงติงจึงได้มาตรวจสอบอีกครั้ง และพบว่า การทำหนังสือขออนุญาตของ สพฐ.ไม่ถูกต้อง เนื่องจากในจำนวน 41 ราย มีผู้ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพฯถึง 34 ราย ดังนั้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะทำหนังสือยกเลิกการอนุญาตของคุรุสภา และให้ สพฐ.ทำเรื่องขออนุญาตมาใหม่ให้ถูกต้องอีกครั้ง
“ส่วนตัวคิดว่า การแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.สพม.ครั้งนี้ไม่น่าจะถูกต้องในหลักการ และไม่เหมาะสม เพราะปัจจุบันมี ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) รอง ผอ.สพท.และผู้ที่สอบขึ้นบัญชีได้ ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาไปแล้วกว่า 2,000 คน ก็ควรพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติครบก่อน แต่หากคิดว่า นำ รอง ผอ.สพท.ที่ไม่มีสายเลือดทางมัธยมไปดูแล สพม.ไม่ได้ แล้วมีการแต่งตั้งแบบข้ามหัว ก็จะทำให้เกิดการแตกแยก ทำให้ครูทะเลาะกัน อีกทั้งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาก็ไม่ได้แบ่งแยก ว่า เป็นการบริหารในระดับประถม หรือมัธยม ถ้าเป็นการศึกษาที่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีก็บริหารได้ทั้งนั้น ทั้งนี้ หากมีการฟ้องร้องภายหลังผู้แต่งตั้งก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” เลขาธิการคุรุสภา กล่าว
นายองค์กร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ชมรมองค์กรเครือข่ายครูฯ ระบุว่า ถ้าสอบครูได้แต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูก็ไม่สามารถบรรจุได้ แต่ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งดูแลทั้งครูและผู้บริหารโรงเรียน เมื่อไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา กลับสามารถแต่งตั้งให้เป็น ผอ.สพม.ได้ ซึ่งถือว่าคุรุสภาพิจารณาแบบสองมาตรฐานนั้น ยืนยันว่า คุรุสภาไม่ได้พิจารณาเรื่องการประกอบวิชาชีพควบคุมแบบสองมาตรฐาน แต่เรื่อง ผอ.สพม.เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเมื่อ สพฐ.ชงเรื่องมาผิด การอนุมัติก็ผิดพลาดตามไปด้วย และขณะนั้นตนติดราชการต่างจังหวัด รองเลขาธิการคุรุสภาก็ได้อนุมัติให้ แต่เมื่อรู้ว่าผิดพลาดตนก็จะถอนการอนุญาตฯ และให้ สพฐ.ทำเรื่องมาใหม่ โดยแยกแยะให้ชัดเจนว่า กลุ่มใดมีคุณสมบัติครบแล้ว และกลุ่มใดยังมีคุณสมบัติไม่ครบ ไม่ใช่ขอยกเว้นมาแบบยกโหล และในการขออนุญาตก็จะต้องมีการกำหนดว่าจะต้องพัฒนาตนเองเพื่อให้มีคุณสมบัติ ครบตามใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษาภายใน 2 ปี เช่นเดียวกับการขออนุญาตให้แก่ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการ ศึกษาอื่นๆ


ที่มา - ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000129141

Wednesday, September 8, 2010

กพฐ.กำหนดโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายใน สพป.และสพม.แล้ว

ตามนั้น

กพฐ.เห็นชอบโครงสร้างแบ่งส่วนราชการในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใหม่ทั้งประถมและมัธยม

 (8ก.ย.)นายชินภัทร  ภูมิรัตน  เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ที่มีนายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า บอร์ด กพฐ.ได้หารือเรื่องการแบ่งโครงสร้างสร้างรายการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) ซึ่งปัจจุบันแยกเป็น สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษามีจำนวนทั้งหมด 183 เขตทั่วประเทศ และสำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา มีจำนวน 42 เขต โดยการแบ่งส่วนราชการใหม่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 2 ประเภทนั้น อิงกับการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเดิม และได้วิเคราะห์ภารกิจ ปัญหาในทางปฏิบัติงานที่ผ่านมา มาเป็นข้อมูลพิจารณาแบ่งส่วนราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในคราวนี้ด้วย
 สำหรับโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษานั้น แบ่งเป็น 7 กลุ่มงาน ได้แก่ กลุ่มงานอำนวยการ กลุ่มงานบริหารบุคคล กลุ่มงานนโยบายและแผน กลุ่มงานส่งเสริมการจัดการศึกษา กลุ่มงานนิเทศก์ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา กลุ่มงานส่งเสริมสถานศึกษาเอกชน และกลุ่มงานบริหารการเงินและทรัพย์สิน ส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษาแบ่งส่วนราชการเหมือนสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา แต่ไม่มีกลุ่มงานส่งเสริมสถานศึกษาเอกชนเพราะโอนงานนี้ให้สำนักงานการประถมศึกษาเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ซึ่งมีงานไม่มากส่วนใหญ่เป็นงานเชิงธุรการ งานเบิกจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวของสถานศึกษาเอกชน
 นายชินภัทร กล่าวต่อว่าจุดเปลี่ยนแปลงระหว่างโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในอดีตและปัจจุบันนั้นมีไม่มาก เช่น กลุ่มงานอำนวยการเดิมครอบคลุมทั้งงานบริหารจัดการทั่วไปในสำนักงานและงานการเงิน แต่เพื่อความสะดวกและคล่องตัวจึงแยกเป็น 2 กลุ่มงาน คือ กลุ่มงานอำนวยการและกลุ่มงานบริหารการเงินและสินทรัพย์ หรือมีการย้ายงานจัดสวัสดิการ สวัสดิภาพ จากกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษาไปอยู่ในกลุ่มอำนวยการเพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้เมื่อแบ่งส่วนราชการเสร็จแล้วก็จะมีการเกลี่ยคนไปลงในตำแหน่งต่างๆ ตามโครงสร้างใหม่


ที่มาหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก 8 กันยายน 2553

Tuesday, September 7, 2010

มาแล้ว....จัดหนักๆให้ไปเลยสำหรับหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย

การออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๓ จัดหนักๆให้สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทางวินัยฯหรือเรื่องอื่นๆของการบริหารบุคคลช่วงนี้.... จัดไป ตามลิงค์

หลักเกณฑ์การดำเนินการทางวินัยของข้าราชการครูฯ

อาจมีกรรมการกลั่นกรองการโย้กย้ายผู้บริหารสถานศึกษามัธยมแทนอ.ก.ค.ศ.วิสามัญ

นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยกรณีสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ห่วงว่าการทำงานของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญ ที่ทำหน้าที่แทน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา อาจเกิดความล่าช้า เพราะต้องดูแลเขตพื้นที่การศึกษามัธยมทั้ง 42 เขต ว่า ในฐานะประธาน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ล่าช้า เพราะการทำงานเพิ่งจะเริ่มต้น และตนจะประชุมเพื่อวางกรอบ และหลักเกณฑ์ในการทำงานอย่างเข้ม จะพยายามประชุมให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ โดยในเดือนนี้จะประชุมกัน 4-5 ครั้ง และภายในเดือนกันยายน มีกรอบปฏิทินการดำเนินการเรื่องเขตพื้นที่การศึกษามัธยมจะแล้วเสร็จ ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จะต้องมีหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ชัดเจน และมีกลไกต่างๆ เหมือนการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านๆ มา อย่างไรก็ตาม ตนมีแนวคิดที่จะตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมา 42 เขต เพื่อทำหน้าที่ช่วยกลั่นกรองงานตามที่ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯมอบหมาย จะทำให้การพิจารณางานต่างๆ รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะนำเรื่องนี้หารือในที่ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ และหารือ ก.ค.ศ.ด้วย การตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองนี้ จะต้องวางระบบให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการบริหารงาน

"การแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ตัวจริงแทนผู้ปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นเรื่องที่ สพฐ.จะต้องพิจารณา โดยจะต้องยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ ก.ค.ศ.เห็นชอบ ซึ่งอาจกำหนดสัดส่วนเอาไว้ 2 ส่วน คือ การเปิดโอกาสให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) เดิม หรือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ย้ายมาดำรงตำแหน่ง และการเปิดให้สมัครคัดเลือกสรรหาทั่วไป จะเสนอเรื่องนี้ให้ที่ประชุม กพฐ.พิจารณาว่าควรกำหนดสัดส่วนเท่าใด" นายชินภัทรกล่าว




ที่มา - มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1283838871&catid=04

ความเคลื่อนไหวจากชมรมผู้บริหารมัธยมศึกษาพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย(ชบมท.)

มีความเคลื่อนไหว จากท่านประธานชมรมฯ ดร.สมนึก นาห้วยทราย หลังจากได้พูดคุยกัน ณ อาคารรัฐสภา ๒ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๓ หลังเข้าพบท่านรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงศึกษาธิการ พวกเราได้ประชุมหารือกันประมาณ ๑ ชั่วโมง ต่อไปนี้คือความเคลื่อนไหวต่อจากวันนั้น



เรียน ท่านผอ....
                       ผมได้ส่งข้อบังคับ และใบสมัครของชมรมฯ มาให้ท่านและพี่น้องชาวเพชรบุรีและจังหวัดใกล้เคียงขอขอบคุณท่านมากที่ท่านเป็นผู้แทนพวกเราใน เขตนี้ และขอเรียนให้ พี่น้องเราชาวมัธยมพลัดถิ่นได้ทราบว่าคาดว่าสัปดาห์หน้านี้ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ ผอ.สถานศึกษามัธยม จะเข้าการพิจารณาและให้ความเห็นชอบของ ก.ค.ศ. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไปตามที่ชมรมฯ เราเสนอไป 
                         ขอเรียนพี่น้องพวกเราทุกคนให้ทราบว่า ดร.สมนึก นาห้วยทราย ประธานชมรมฯ คณะกรรมการชมรมฯทุกท่าน จะช่วยเหลือพี่น้องเรา ตลอดไป ไม่มีการทิ้งกันแน่นอน จะช่วยเหลือกันจนถึงที่สุด ผมในนามคณะทำงานที่เชียงใหม่ขอขอบคุณท่าน..... และพี่น้องเราทุกคนที่ได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือกัน คิดว่าคงได้ร่วมงานกันต่อไปนะครับ
                                                                                                                               ผอ.กระจ่าง  แก้วสว่างนภา
เลขานุการชมรมฯ
      โทร 0815316358 
E-mail : Krajang.cm@hotmail.com
5/ก.ย./53

หมายเหตุ- บล๊อกชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี ขออนุญาตตัดทอนชื่อผอ.ท่านที่อยู่เพชรบุรี ด้วยนะครับ และกราบขออภัยที่โพสต์ขึ้นบล๊อก อาจมีประโยชน์จากเพื่อนผู้บริหารพลัดถิ่นฯที่ยังไม่ทราบความเคลื่อนไหวครับ

วิธีดาวน์โหลดใบสมัครและข้อบังคับชมรม ให้ท่านคลิ๊กเข้าไปในเอกสารตามลิงค์ ในส่วนของใบสมัครนั้นเมื่อท่านผอ.คลิ๊กเข้าไปดูแล้วให้ท่าน คัดลอกใบสมัครแล้วไปวางในเวิร์ดจึงเติมข้อความตามใบสมัครได้


ดาวน์โหลดข้อบังคับชมรมผู้บริหารพลัดถิ่น

ดาวน์โหลดใบสมัครสมาชิกชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นแห่งประเทศไทย

อย่าลืม ใบสมัครเมื่อท่านดาวน์โหลดขึ้นมาแล้วคัดลอกไปวางในเวิร์ด จัดแต่งให้เหมาะสมสวยงามและเติมข้อความให้ครบสมบูรณ์ ส่งไปตามอี-เมล์ ของผอ.กระจ่าง ฯ และโอนเงินจำนวน 200 บาท ครับ ขอบคุณครับ

หากมีปัญหาในการดาวน์โหลดเอกสารใบสมัครสมาชิกชมรมโปรดติดต่อ rony1977@live.com

Monday, September 6, 2010

สพม.เขต๔และพิธีสงฆ์ ในการเปิดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ ๔ ปทุมธานี-สระบุรี



ภาพสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๔ (ปทุมธานี-สระบุรี) โดยสำนักงานตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี และภาพพิธีสงฆ์ในการเปิด สพม.เขต ๔ ปทุมธานี-สระบุรี วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๓ พร้อมกันทั่วประเทศทั้ง ๔๒ เขต

พิธีเปิดป้าย สพม.ที่๔ ปทุมธานี-สระบุรี


พิธีเปิดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาที่ ๔ ปทุมธานี-สระบุรี เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๓

ภาพพิธีเปิด สพม.ที่๔ ปทุมธานี-สระบุรี เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๓


รองฯสุวิทย์ แจ่มจบ (นั่งกลาง)และรองฯอรพรรณ ฯ(ขวาสุด เห็นหน้า) รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต ๑ ในพิธีเปิด สพม.ที่ ๔ ปทุมธานี-สระบุรี