ด่วน...ส่งข่าวถึงผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นทุกท่าน ได้เวลาแล้ว รวมพลัง

ด่วน.....นัดหมายถึงผอ.มัธยมพลัดถิ่นทุกท่าน

วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ น. พบกันที่หน้ารัฐสภาฯ กรุงเทพ ฯ จะมีตัวแทนผอ.มัธยมพลัดถิ่น เข้าพบท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ๒๕ ท่าน ขอให้พี่่ๆ เพื่อนๆ ผอ.มัธยมพลัดถิ่น นัดหมายกันเพื่อพบปะ พูดคุยกันที่ หน้ารัฐสภา

รายละเอียด โทร. ผอ.สมนึก ฯ ๐๘๑ ๙๕๑ ๗๕๕๙

ก.ค.ศ.พิจารณาเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การย้ายใหม่หลังแยกประถมฯมัธยมฯ

จากการประชุม ก.ค.ศ.เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2553 สพฐ.ได้เสนอขอแก้ไขหลักเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ.ใน 3 ประเด็น ดังนี้

1. ขอแก้ไขคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย ในส่วนของมัธยมศึกษา

2. การพิจารณาย้าย ควรดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในเดือน พฤศจิกายน ของปีที่ยื่นคำร้องขอย้าย

3. เมื่อพิจารณาการย้ายไปแล้ว ต่อมามีตำแหน่งว่าง ให้พิจารณาย้ายผู้บริหารต่อเนื่องได้เลย หลังจากมีการโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาเรียบร้อยแล้ว อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาจึงประกาศตำแหน่งว่าง เพื่อให้ผู้ประสงค์ขอย้าย ทั้งภายในเขตพื้นที่กการศึกษา และต่างเขตพื้นที่การศึกษา ได้ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่งในสถานศึกษาที่ว่างตามประกาศของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ต่อไป

ซึ่งที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการฯ ขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์การย้ายดังกล่าว คาดว่าจะนำเสนอ ก.ค.ศ.ได้ในการประชุมวันที่ 14 กันยายน 2553

จึงขอเชิญชวน ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. ได้ช่วยกันเสนอแนะ แนวทางการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา สังกัด สพฐ. เพื่อรวบรวมความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ นำเสนออนุกรรมการฯ ต่อไป

ทราบมาว่าคณะกรรมการชุดนี้ จะมีการพิจารณาถึงแนวทางในการบรรจุแต่งตั้ง รอง ผอ.ร.ร. / ผอ.ร.ร. ที่กำลังเป็นปัญหากันอยู่ในขณะนี้ด้วย



ที่มา - เว็บไซต์อุเทนดอทคอม
http://www.u-then.com/2011/?p=47

ด่วน...ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นทุกท่านโปรดทราบ...

ผอ.พลัดถิ่นทุกท่าน โปรดส่งชื่อจริง เบอร์โทร ไปที่ อี-เมล์ Intra.1@hotmail.com (ผอ.ประสิทธิ์ ยิ่งสมัคร 08-18819501) ด่วน....คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวในเร็วๆนี้ ขอให้ท่านรวบรวมเครือข่ายในจังหวัดของท่าน
จังหวัดละ10 คนหรือมากกว่า เพื่อเข้าหาผู้ใหญ่ในเร็วๆนี้ วัน - เวลา จะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อความแน่นอน
โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคกลางใกล้กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี

เลขาฯสพฐ.ให้ความเห็น ผอ.สพม.ไม่น่าจะใช้บัญชี ผอ.สพท.ที่สอบขึ้นบัญชีปีที่แล้ว

เริ่มชัดเจน ดร. ชินภัทร ภูมิรัตน ชี้..ไม่น่าจะใช้ผู้ขึ้นบัญชี สอบ ผอ.สพท.ปีที่แล้วเรียกมาเป็นผอ.สพม.

"ชินภัทร"ชี้มีประสบการณ์ข้ามสายได้ มีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับประถมหรือมัธยมรวมกัน 5 ปี ยันจัดโครงสร้างทันกรอบเวลา ก.ย. นี้ เสนอโครงการได้...

ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้กำหนดมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เพื่อให้สอดรับกับการกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาและ ประถมศึกษา โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าว ต้องปฏิบัติงานด้านการบริหารการประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.เดิม) มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการ เชี่ยวชาญ รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำของอันดับ คศ.4 ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า การกำหนดมาตรฐานตำแหน่ง ผอ. สพม.และ สพป.นั้น คงไม่ถึงขั้นไม่ให้มีการข้ามสายระหว่างประถมศึกษากับมัธยมศึกษา เพราะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานในสายประถมหรือมัธยมอย่างน้อย 5 ปี เข้ารับการสรรหาคัดเลือกได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่รอง ผอ.สพท.เดิมมีคุณสมบัติ ส่วนรอง ผอ.สพท.รุ่นใหม่ที่เพิ่งรับอาจมีอายุงานไม่ถึง 5 ปี ดังนั้น จึงต้องย้อนไปดูประสบการณ์การทำงานก่อนมารับตำแหน่งว่ามีประสบการณ์ที่ เกี่ยวข้องกับประถมหรือมัธยมหรือไม่ เพื่อนับรวมกันให้ได้ 5 ปี

ดร.ชินภัทรกล่าวอีกว่า ส่วนที่จะให้ผู้ที่สอบขึ้นบัญชี ผอ.สพท.เดิมไว้ได้ รับพิจารณาแต่งตั้งเป็น ผอ.สพม.นั้น คงต้องมาหารือกันให้ได้ข้อยุติ ส่วนตัวเห็นว่าไม่น่าจะได้ เพราะตามหลักแล้วการสอบบรรจุขึ้นบัญชีเป็นการสอบตามเขตพื้นที่การศึกษาเดิม ดังนั้น จะให้คนที่สอบขึ้นบัญชีไว้มาเป็น ผอ.สพม.คงจะไม่เหมาะ ส่วนการกำหนดโครงการสร้าง สพม.นั้น ตามขั้นตอนแล้ว สพฐ.ต้องเริ่มจัดโครงสร้างภายใน สพม.ก่อนว่าจะมีกลุ่มงานกี่กลุ่ม และจะนำเสนอให้สำนักงาน ก.ค.ศ.เพื่อกำหนดกรอบอัตรากำลัง และให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.อนุมัติกรอบอัตรากำลัง จากนั้นถึงจะจัดคนลงได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสอบถามความเห็นของบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษาเดิมว่า ใครต้องการอยู่ในเขตพื้นที่มัธยมบ้าง ทั้งนี้ เชื่อว่าจะทันกรอบเวลา 180 วัน เพราะภายในเดือนกันยายนน่าจะเสนอโครงสร้างได้


ที่มา - ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/edu/106775
-------------------------------------------------------------

ผอ.พลัดถิ่นทุกท่าน โปรดส่งชื่อจริง เบอร์โทร ไปที่ อี-เมล์ Intra.1@hotmail.com (ผอ.ประสิทธิ์ ยิ่งสมัคร 08-18819501) ด่วน....

กำหนดตัวอักษรประจำส่วนราชการของการมัธยมศึกษา

ตามลิงค์


การกำหนดชื่อย่อ รหัสพยัญชนะประจำส่วนราชการ


แถมด้วยการสำรวจบุคลากรสายบริหารในสำนักงานเขต(สงสัยยังไม่ถึงคิวของผู้บริหารพลัดถิ่นอย่างพวกเรา)


แบบสำรวจความสมัครใจของผอ./รองฯผอ.เขตฯและบุคลากรอื่น

ประกาศด่วน...จากชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี ช้า..ท่านอาจเสียสิทธิ์

ด่วน....จากชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี


ประชาสัมพันธ์ไปยังพี่ๆเพื่อนๆผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่น ทุกท่าน โปรดทราบ...

ขอให้ท่านที่เป็นผู้บริหารพลัดถิ่น ส่งรายชื่อ-นามสกุล ชื่อโรงเรียนและสำนักงานเขตพื้นที่ฯที่สังกัด สแกนลายเซ็นต์ พร้อมเบอร์โทรศัพท์
ไปยังอี-เมล์ ชื่อ rony1977@live.com หรือ ส่งตรง อี-เมล์ Intra.1@hotmail.com (ผอ.ประสิทธิ์ ยิ่งสมัคร 08-18819501)(ท่านที่ส่งอี-เมล์ แรกแล้ว ไม่ต้องส่งอีกครับ เพราะส่งต่อให้ผอ.ประสิทธิ์ฯแล้ว)

อาจรวบรวมรายชื่อเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่รู้จักและเป็นผู้บริหารมัธยม"พลัดถิ่น"...เพื่อรวบรวมรายชื่อให้เครือข่าย นำเสนอผู้ใหญ่ในการประชุมองค์คณะบุคคลวิสามัญเร็วๆนี้

โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคกลาง อยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง สิงห์บุรี ฯลฯ

เรียนมาเพื่อทราบ

ตามด้วยผอ./รองฯผอ.เขตฯปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

ตามลิงค์ไปเลยครับ ใครเป็นใครดูเอาตามสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาทั้ง 42 เขต

ผู้อำนวยการ/รองผู้อำนวยการฯสำนักงานเขตฯมัธยมฯ


ศึกษานิเทศก์ประจำเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา


ผอ./รองฯผอ.เขตฯ ปฏิบัติหน้าที่ไปไม่เกิน 180 วัน จะมีการสรรหาใหม่ คาดว่าตุลาคม 2553นี้มีหลุดหลายตำแหน่งเพราะเกษียณอายุราชการ รวมทั้งหลังการสรรหามีความเป็นไปได้ว่าอาจไม่ใช่ 42 คน ณ คำสั่งนี้

ส่วนศึกษานิเทศก์ คงประจำการตามเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเหมือนเดิม สำหรับบุคลากรอื่นๆ(บุคคลตามมาตรา 38 ค(1) คงติดตามมาในไม่ช้าตามความสมัครใจ เพราะกำลังมีการสำรวจแล้ว

มาแล้ว...ชื่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตามระบบงานสารบรรณ

จัดไป ตามลิงค์


เขตพื้นที่การศึกษา/สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

ปรับสัดส่วนผู้แทนใน ก.ค.ศ.ใหม่ ผลกระทบจากพ.ร.บ.ฯ3ฉบับ

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ ๘/๒๕๕๓ นี้ว่า......
ที่ประชุมยังได้พิจารณา (ร่าง) กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการได้มาของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการผู้แทน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. พ.ศ. .... โดยที่ พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้กำหนดองค์ประกอบของ ก.ค.ศ. ในส่วนของกรรมการผู้แทนข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาใหม่ จากเดิม ๙ คน เป็น ๑๒ คน จากเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ได้แก่

(๑) ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน ๑ คน
(๒) ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน ๑ คน
(๓) ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่าง อื่นในหน่วยงานการศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษา จำนวน ๑ คน
(๔) ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่าง อื่นในหน่วยงานการศึกษา ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษามัธยม ศึกษา จำนวน ๑ คน
(๕) ผู้แทนข้าราชการครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน ๓ คน
(๖) ผู้แทนข้าราชการครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน ๑ คน
(๗) ผู้แทนข้าราชการครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จำนวน ๑ คน
(๘) ผู้แทนข้าราชการครู สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม จำนวน ๑ คน
(๙) ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน ๑ คน
(๑๐) ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา จำนวน ๑ คน

รมว.ศธ. กล่าวว่า เนื่องจากองค์ประกอบดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมบางหน่วยงาน เช่น กศน. และการศึกษาพิเศษ ที่ประชุมจึงขอให้ อ.ก.ค.ศ.ระบบไปศึกษาเรื่องนี้ และนำกลับมาเข้าที่ประชุม ก.ค.ศ. ใหม่อีกครั้งหนึ่ง และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาตามพระราชบัญญัติทั้ง ๓ ฉบับ มีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการปรับปรุงการบริหารงานบุคคล เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้เป็นไปตามกฎหมายในช่วงเวลา ๑๘๐ วัน จึงได้มีการตั้งคณะทำงานชุดหนึ่ง เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติงานรองรับกฎหมายทั้ง ๓ ฉบับต่อไป

--------------------------
ที่มา http://www.moe.go.th/websm/2010/aug/270.html

ท่านเลขาฯ สพฐ. ไม่ปิดทางย้ายข้ามประถม/มัธยมฯ

ต้องดูความชัดเจนอีกครั้ง เร็วๆนี้ (สังเกตว่าไม่ได้พูดถึง ผอ.พลัดถิ่น)

ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือเรื่องเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา โดยมีความเห็นว่า เนื่องจากเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพิ่งจัดตั้งขึ้นมา การดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) จึงยังไม่มีความพร้อมทั้งในเรื่องบุคลากรและอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะเรื่องการติดต่อประสานงานที่โรงเรียนอาจจะไม่รู้จะติดต่อไปหน่วยใด และการบริหารงานบุคคลที่ยังไม่มีองค์คณะบุคคลที่จะรับเรื่องต่าง ๆ ไว้ในช่วงนี้ ดังนั้น สพฐ.จะเชิญผู้บริหารและบุคลากรที่เกี่ยวข้องมาหารือกันก่อน และในสัปดาห์หน้าจะทำหนังสือเพื่อซักซ้อมความเข้าใจในแนวปฏิบัติให้สพม. และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศทราบต่อไป

ดร.ชินภัทร กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อเรียกร้องเกี่ยวกับกรอบมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะในการเข้า สู่ตำแหน่ง ผอ.และ รอง ผอ.สพม. รวมถึงหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาที่จะให้เน้นพิจารณา แยกสังกัดอย่างชัดเจนนั้น เรื่องนี้ต้องมีการหารือกันด้วยความรอบคอบและให้ทุกฝ่ายได้มีโอกาสในการนำ เสนอข้อมูล เพื่อประโยชน์ในภาพรวม ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวมองว่า การบริหาร สพม.ก็ควรจะมีประสบการณ์ด้านการบริหารงานมัธยมฯ มาพอสมควร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิดทางไม่ให้ข้ามสาย กันเลย.



ที่มา - เดลินิวส์ออนไลน์
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=42&contentID=87536

ก.ค.ศ.กำหนดมาตรฐานตำแหน่ง ผอ./รองฯผอ.เขตฯมัธยมแล้ว

ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับมาตรฐาน ผอ.เขตพื้นที่ประถม-มัธยม เข้มห้ามข้ามสาย

“ชินวรณ์” เผยที่ประชุม ก.ค.ศ.เห็นชอบปรับมาตรฐาน ผอ.เขตพื้นที่ประถม-มัธยม ระบุ ผ่านงานบริหารไม่น้อยกว่า 5 ปี นั่งรอง ผอ.สพท. ไม่น้อยกว่า 1 ปี เป็น ผอ.สถานศึกษา วิทยฐานะไม่ต่ำกว่า ผอ.เชี่ยวชาญ มีใบประกอบวิชาชีพผู้บริหาร ชี้ จำกัดว่าคุณสมบัติเฉพาะ ห้ามข้ามสายประถม-มัธยม

วันนี้ (25 ส.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เพื่อให้สอดรับกับการกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยม และประถม โดยได้กำหนดให้ผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าวจะต้องปฏิบัติงานด้านการ บริหารการประถม หรือ มัธยม ไม่น้อยกว่า 5 ปี ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่า ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำของอันดับ คศ.4 และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา

สำหรับตำแหน่ง รอง ผอ.สพม.และ สพป.กำหนดให้ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ต้องดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนัก งานเขตพื้นที่การศึกษา หรือเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานและรับเงินเดือนไม่ต่ำกว่า คศ.3 หรือดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่ารองผู้อำนวย การชำนาญการพิเศษ หรือผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ หรือดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่มีประสบการณ์การบริหารไม่ต่ำกว่า ผู้อำนวยการกลุ่ม หรือหัวหน้ากลุ่มมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี และ รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าอันดับ คศ3.หรือไม่ต่ำกว่าระดับ 8 หรือดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์วิทยฐานะ ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ รวมทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารการศึกษาประถม หรือมัธยม ไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (ผอ.กศน.) จังหวัด โดยกำหนดผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งได้รับเงินเดือนในอันดับ คศ.4 ด้วยเช่นกัน

"การกำหนดมาตรฐานตำแหน่งของผู้ที่จะมาเป็น รอง-ผอ.สพม.และรอง- ผอ.สพป.นั้นจะต้องจำกัดว่าคุณสมบัติเฉพาะ ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่อยู่สายประถม และมัธยม จะข้ามสายกันไม่ได้ การกำหนดมาตรฐานเช่นนี้ก็ต้องการให้ได้คนที่มีความรู้ในสายนั้นๆ เพราะการแบ่งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมฯ คราวนี้เพราะเหตุผลว่าเขตพื้นที่การศึกษามัธยม ก็ต้องการได้คนที่มีความรู้ทางด้านมัธยมฯศึกษา” รมว.ศธ.กล่าว

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานครชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมฯ กรุงเทพมหานคร จนกว่า ก.ค.ศ. จะตั้ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถม ซึ่งการตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ นี้ เนื่องจากมีการยุบรวมเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร 3 เขตเดิมให้เหลือเพียง 1 เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ดังนั้น จึงต้องตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ขึ้นมาเพื่อให้บริหารงานบุคคลต่อไปได้ในระยะเวลา 180 วัน ส่วนเขตพื้นที่การศึกษาเดิมเขตอื่นนั้นไม่ต้องตั้งอ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯเนื่อง จากไม่ได้ไม่มีการยุบเขตพื้นที่การศึกษาเดิม นอกจากนี้ได้มอบให้ที่ประชุมตั้งคณะกรรมการดูแลภาพรวมการบริหารจัดการการ ดำเนินการตามกฎหมายการศึกษาที่ปรับปรุงใหม่ 3 ฉบับโดยมี นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เป็นประธาน ให้ไปทำแผนปฏิบัติงานในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 180 วัน ให้เป็นไปตามกฎหมายรวมทั้งติดตามเร่งรัดเพื่อไม่ให้การปฏิบัติงานเกิดปัญหา และไม่ให้เกิดช่องว่างในการบริหารงานบุคคลในช่วงดังกล่าวนี้



ที่มา - ผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000118664

รัฐมนตรีฯกำหนดสเปกผอ.เขตฯมัธยม ปิดทางข้ามห้วย

ข่าวร้อน....
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.53 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เพื่อให้สอดรับกับการกำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และประถมศึกษา

โดยกำหนดให้ผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าว จะต้องปฏิบัติงานด้านการบริหารการประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี ดำรงตำแหน่ง รอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือดำรงตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่า ผอ.เชี่ยวชาญ รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำ คศ.4 และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา

สำหรับตำแหน่ง รอง ผอ.สพม.และ รอง ผอ.สพป.กำหนดให้ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนี้ ต้องดำรงตำแหน่งผู้ช่วย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน และรับเงินเดือนไม่ต่ำกว่า คศ.3 หรือดำรงตำแหน่งรอง ผอ.สถานศึกษาที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่า รอง ผอ.ชำนาญการพิเศษ หรือ ผอ.สถานศึกษา ที่มีวิทยฐานะไม่ต่ำกว่า ผอ.ชำนาญการพิเศษ หรือดำรงตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นที่มีประสบการณ์การบริหารไม่ต่ำกว่า ผอ.กลุ่ม หรือหัวหน้ากลุ่ม มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปีและ รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่า คศ 3.หรือไม่ต่ำกว่าระดับ 8 หรือดำรงตำแหน่ง ศึกษานิเทศก์ วิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ รวมทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารการศึกษาประถมศึกษา หรือมัธยมศึกษาไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา

นออกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรฐานตำแหน่ง ผอ.กศน.จังหวัด โดยกำหนดผู้ที่จะเข้าสู่ตำแหน่งได้รับเงินเดือน คศ.4 ด้วยเช่น

"การกำหนดมาตรฐานตำแหน่ง ผู้ที่จะมาเป็น ผอ.และ รอง ผอ.ทั้งเขตประถม และเขตมัธยม นั้นจะต้องจำกัดว่าคุณสมบัติเฉพาะ ซึ่งหมายความว่าผู้ที่อยู่สายประถม และมัธยมจะข้ามสายกันไม่ได้ การกำหนดมาตรฐานเช่นนี้ ก็ต้องการให้ได้คนที่มีความรู้ในสายนั้นๆ เพราะการแบ่งเขตพื้นที่การศึกษามัธยมฯ คราวนี้ เพราะเหตุผลว่าเขตพื้นที่การศึกษามัธยมฯ ก็ต้องการได้คนที่มีความรู้ทางด้านมัธยมฯ"

นายชินวรณ์ กล่าวและว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา( อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพฯ ชั่วคราวเพื่อทำหน้าที่แทนจนกว่าจะตั้งตัวจริงได้ และยังมอบให้นายธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธาน จัดทำแผนปฏิบัติงาน รวมถึงปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ ให้แล้วเสร็จในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน 180 วัน เพื่อไม่ให้การปฏิบัติงานเกิดปัญหาและเกิดช่องว่าง



ที่มา - สยามรัฐออนไลน์
http://www.siamrath.co.th/?q=node/65182

อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธาน ก.ค.ศ. ได้ลงนามในประกาศ ก.ค.ศ. เรื่อง ตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเพื่อทำหน้าที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ซึ่งมีทั้งหมด 17 คน ดังนี้

1. เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (นายชินภัทร ภูมิรัตน) ประธานอนุกรรมการ
2. รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ อนุกรรมการ
3. นายนิราศ สร่างนิทร อนุกรรมการ
4. นายนิวัตร นาคะเวช อนุกรรมการ
5. นายอภิชาติ จีระวุฒิ อนุกรรมการ
6. นายเสน่ห์ ขาวโต อนุกรรมการ
7. นายสมเกียรติ ชอบผล อนุกรรมการ
8. นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร อนุกรรมการ
9. นายสงกรานต์ จันทร์น้อย อนุกรรมการ
10. นายวิทยา บริบูรณ์ทรัพย์ อนุกรรมการ
11. นายวัชรินทร์ ศรีบุรินทร์ อนุกรรมการ
12. นายประพันธ์ สุเนตรวรกุล อนุกรรมการ
13. นายณัฐ จั่นแย้ม อนุกรรมการ
14. นายบัณฑิต แท่นพิทักษ์ อนุกรรมการ
15. ผู้แทนสำนักงาน ก.ค.ศ. (คาดว่าน่าจะเป็น นางศิริพร กิจเกื้อกูล ว่าที่ เลขาธิการ ก.ค.ศ.) อนุกรรมการ
16. ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 1 คน (คาดว่าน่าจะเป็น นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา) อนุกรรมการ
17. เจ้าหน้าที่ที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมาย อนุกรรมการและเลขานุการ

โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบหมายให้เป็นผู้ช่วยเลขานุการ จำนวน 2 คน



ที่มา - เว็บไซต์อุเทนดอทคอม
http://www.u-then.com/2011/?p=28/

ราชกิจจานุเบกษาเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา

ตามลิงค์ด้านล่างนี้


ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเขตพื้นที่ฯ

ราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

ตามลิงค์นี้

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรีจัดประชุมเป็นครั้งแรก

ชมรมผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี จัดประชุมเป็นครั้งแรก ที่ห้อง สิริทักษิณ โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2553 ผู้เข้าร่วมประชุมคือ ผอ.ประยูร เพ็งชะตา ผอ.มงคล มีสมภพ และผอ.วัฒนพงศ์ เสมา
โดยที่ประชุม มีการนำเสนอแนวทางความเป็นไปได้ในการโอนย้ายกลับไปการมัธยมศึกษา ที่มีศูนย์ สพม.ที่ 4 จังหวัดปทุมธานี นอกจากนี้ยังมีการเลือกประธานชมรม มีมติเป็นเอกฉันท์ เลือก ผอ.พงษ์ศักดิ์ หนูทรัพย์ ผอ.โรงเรียนวัดราษฏร์บำรุง
รายชื่อ ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นสระบุรี
สระบุรี เขต 1
๑.นายชวนทรัพย์ ศรีราชา โรงเรียนวัดอู่ตะเภา อ.หนองแซง
๒.นายสำราญ ไพรวรรณ์ โรงเรียนบ้านพุกร่าง(พลอุปถัมภ์) อ.พระพุทธบาท
๓.นายสุชาติ สุนทรประสิทธิ์ โรงเรียนบ้านซับชะอม
๔.นายกฤษ บุญเพ็ง โรงเรียนวัดโพธิ์ทอง อ.บ้านหมอ
๕.นายวัลลภ ศรีวงศ์จรรยา โรงเรียนวัดท่าวัว อ.เฉลิมพระเกียรติ
๖.นายพิสิทธิ์ จิตต์ผูก โรงเรียนวัดบ้านซุ้ง(อิสระวิทยา) อ.เสาไห้
๗.นายสันต์ธวัช ศรีคำแท้ โรงเรียนวัดป่าคา อ.เฉลิมพระเกียรติ
๘.ว่าที่ร้อยตรีเริงฤทธิ์ ผดุงพันธุ์ โรงเรียนวัดดอนทอง(ราษฏร์ร่วมจิต) อ.ดอนพุด
๙.นายอากาศ โพธิ์อ่อง โรงเรียนบ้านหนองจาน อ.เฉลิมพระเกียรติ
๑๐.นายขจรศักดิ์ ชัยสมตระกูล โรงเรียนวัดโคกงาม อ.บ้านหมอ
๑๑.นายวุฒิไกร ทองบ่อ โรงเรียนวัดหนองหัวโพ อ.หนองแซง

สระบุรี เขต 2
๑๒.นายพงษ์ศักดิ์ หนูทรัพย์ โรงเรียนวัดราษฏร์บำรุง อ.หนองแค
๑๓.นางรุจภรณ์ ภูอมรกุล โรงเรียนวัดเกาะเซิงหวาย อ.วิหารแดง
๑๔.นางกิ่งกาญจน์ ฟูเกษม โรงเรียนวัดหนองอ่างทอง อ.หนองแค
๑๕.นางพรทิพย์ บุญเจริญ โรงเรียนบ้านใหม่ทุ่งดินขอฯ อ.หนองแค
๑๖.นางสาวสมศรี มธุรสสุวรรณ โรงเรียนวัดคลองห้า อ.หนองแค
๑๗.นายชวา หมื่นมี โรงเรียนบ้านหนองโป่ง
๑๘.นางสมใจ ไกรพันธ์ โรงเรียนวัดโคกกลาง อ.หนองแค
๑๙.นายรังสฤษดิ์ ศรีแก้ว โรงเรียนวัดหนองตาเดี้ยง อ.หนองแค
๒๐.นายกมล เฟื่องฟุ้ง โรงเรียนวัดโพนทอง
๒๑.นายบุญส่ง เย็นศรี โรงเรียนวัดสร้างบุญ อ.วิหารแดง
๒๒.นายเชิดพงษ์ ชูพันธ์ โรงเรียนวัดท่าสีโพธิ์เหนือ อ.แก่งคอย
๒๓.นางจิรภา อิศวมงคล โรงเรียนบ้านปากน้ำ
๒๔.นายโอภาส ศิลปเจริญ โรงเรียนวัดบ่อโศรก
๒๕.นางสาวศิริพร เชิดวงศ์สุข โรงเรียนบ้านหนองสองห้อง อ.แก่งคอย
๒๖.นางเอมอร บูรณศักดิ์ โรงเรียนบ้านช่อง อ.แก่งคอย
๒๗.นางวรฉาย ทองคำ โรงเรียนหนองกรดสามัคคี
๒๘.นายธีรวัฒน์ มอนไธสง โรงเรียนวัดหนองโรง

ที่ประชุม แจ้งว่า จะมีการพบปะ หรือการติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ตามเครือข่ายทั่วประเทศไทย ผู้บริหารมัธยมพลัดถิ่นท่านใด ต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ติดต่อสื่อสารถึงกัน ติดต่อผู้ประสาน ผอ.อ้อย 081 4067545
หรืออี-เมล์ ตามบล๊อคนี้ crewcaptain.srikhamthae@gmail.com